เวียดนามมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งเพื่อสร้างสรรค์อาเซียนที่พึ่งพลังตนเอง
Anh Huyen-VOV5 -  
(VOVWORLD) -การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่33และการประชุมระดับสูงที่เกี่ยวข้องได้มีขึ้น ณ ประเทศสิงคโปร์ในระหว่างวันที่ 11-15พฤศจิกายน โดยเป็นโอกาสเพื่อให้ผู้นำอาเซียนและหุ้นส่วนต่างๆแลกเปลี่ยนทัศนะร่วมในปัญหาระหว่างประเทศและภูมิภาค มุ่งสร้างความเจริญรุ่งเรืองของแต่ละประเทศรวมทั้งของอาเซียน ในการประชุมครั้งนี้นายกฯเหงวียนซวนฟุกได้เข้าร่วมและยืนยันอีกครั้งถึงบทบาทของสมาชิกที่เข้มแข็ง คล่องตัวและมีความรับผิดชอบของเวียดนามต่อความเจริญรุ่งเรืองและการพึ่งพลังตนเองของอาเซียน
การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่33และการประชุมระดับสูงที่เกี่ยวข้องเช่น การประชุมอาเซียน+3 กับจีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี การประชุมระดับสูงเอเชียตะวันออกหรืออีเอเอส การประชุมอาเซียน+1 และการประชุมผู้นำประเทศที่เข้าร่วมข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านในภูมิภาคหรือ อาซีอีพี ครั้งที่2 เป็นต้น คือกิจกรรมสุดท้ายของสิงคโปร์ในฐานะประธานอาเซียน
กำหนดแนวทางการพัฒนาของอาเซียน
การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่33และการประชุมระดับสูงที่เกี่ยวข้องได้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ภูมิภาคและโลกกำลังต้องเผชิญกับความผันผวนที่ซับซ้อนและส่งผลกระทบไม่น้อยต่ออาเซียน ซึ่งตามความเห็นของนายเลหว่ายจูงรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามไม่เพียงแต่อาเซียนเท่านั้นหากองค์การระดับภูมิภาคต่างๆก็ต้องรับมือกับความท้าทายครั้งใหญ่เช่นกัน “ความผันผวนของสถานการณ์โลกนั้นมีความซับซ้อนมากเช่นการที่อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปอาจจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ นอกจากนั้นก็มีผลกระทบด้านความมั่นคงจากสถานการณ์ไร้เสถียรภาพและการก่อการร้ายในภูมิภาคอื่นๆเช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ ปัญหาโรคระบาดและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ”
ในสภาวการณ์นั้น หัวข้อของปีอาเซียน2018ที่สิงคโปร์เสนอคือ “การสร้างสรรค์อาเซียนที่พึ่งพลังตนเองและมีความสร้างสรรค์” ได้ถูกแปรให้เป็นรูปธรรมผ่านแถลงการณ์วิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียนที่เน้นประเด็นความร่วมมือเพื่อยกระดับพลังอันแข็งแกร่งของอาเซียนต่อผลกระทบจากภายนอก เสริมสร้างบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในภูมิภาคและใช้โอกาสจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม4.0ให้เกิดประสิทธิผล นาย เหงวียนแห่วงนัม อดีตเอกอัครราชทูต หัวหน้าคณะผู้แทนถาวรเวียดนามประจำอาเซียนเผยว่า“อาเซียนกำลังหารือเพื่อแสวงหามาตรการต่างๆรวมทั้งการปรับปรุงรูปแบบการดำเนินงานและยกระดับทักษะขององค์กร สร้างความเชื่อมโยงภายในกลุ่มผ่านมาตรการอำนวยความสะดวกทางการค้า การลงทุน การคมนาคมและแรงงานเป็นต้น ซึ่งใน1ปีที่ผ่านมาการดำเนินงานของอาเซียนได้เป็นไปอย่างดีและเป็นรูปธรรมมากขึ้น”
อาเซียนผลักดันบทบาทเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค
การที่มีผู้นำประเทศต่างๆเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนทุกครั้งได้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแรง “ดึงดูดใจ”ของอาเซียนที่เกิดจากการส่งเสริมบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนและเศรษฐกิจการค้าคือตัวอย่างที่เห็นได้ชัด โดยขณะนี้อาเซียนกำลังเสร็จสิ้นภารกิจของปีที่3ในกระบวนการปฏิบัติวิสัยทัศน์อาเซียน2025และแผนแบบบูรณาการเพื่อสร้างสรรค์3เสาหลักของประชาคมที่สามารถบรรลุผลงานที่น่ายินดีต่างๆ ซึ่งผลงานที่สำคัญคือ กระบวนการปฏิบัติความร่วมมือทางการเมือง ความมั่นคงได้บรรลุร้อยละ82 การให้ความสนใจร่วมมือทางเศรษฐกิจบรรลุร้อยละ68ของแผนงาน คำมั่นความร่วมมือด้านวัฒนธรรมสังคมได้รับการปฏิบัติครบทุกเป้าหมาย ส่วนการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี2018จะอยู่ที่ร้อยละ5.1และปี2019อยู่ที่ร้อยละ5.2
ในขณะเดียวกันความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศของอาเซียนก็ได้รับการผลักดันให้เป็นรูปธรรม โดยประเทศต่างๆยันยืนให้ความสำคัญและปรารถนาที่จะกระชับความร่วมมือกับอาเซียน ให้คำมั่นช่วยอาเซียนสร้างสรรค์ประชาคมและสนับสนุนบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียน จนถึงปัจจุบัน มี91ประเทศมีเอกอัครราชทูตประจำอาเซียนและมีการจัดตั้ง53คณะกรรมการอาเซียนในประเทศที่3
เวียดนามมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งเพื่อสร้างสรรค์อาเซียนที่พึ่งพลังตนเอง
สำหรับเวียดนาม ซึ่งเป็นสมาชิกที่เข้มแข็งและคล่องตัวของอาเซียนก็ได้ร่วมกับประเทศสมาชิกอื่นๆร่วมพัฒนาอาเซียนให้เข้มแข็งมั่นคงและเจริญรุ่งเรือง โดยเวียดนามได้อนุมัติกฎหมายความมั่นคงทางอินเตอร์เบต สร้างยุทธศาสตร์แห่งชาติเกี่ยวกับการปรับตัวเข้ากับการปฏิวัติอุตสาหกรรม4.0 การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เป็นต้นเพื่อให้สอดคล้องกับกรอบแถลงการณ์และคำมั่นของอาเซียน และการที่นายกฯเวียดนามได้เข้าร่วมประชุมอาเซียน33ครั้งนี้ก็เป็นการยืนยันอีกครั้งว่า เวียดนามคือสมาชิกที่เข้มแข็ง คล่องตัวและมีความรับผิดชอบสูงเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของอาเซียน.
Anh Huyen-VOV5