(VOVWORLD) - ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง วันที่ 20 เมษายน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเช็ก เป็ตร์ ฟียาลา (Petr Fiala) จะเดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 3 วัน นี่เป็นการเยือนเอเชียครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี เป็ตร์ ฟียาลา นับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อปลายปี 2021 และเป็นการเยือนเวียดนามครั้งแรกของผู้นำรัฐบาลสาธารณรัฐเช็กในรอบ 15 ปี การเยือนครั้งนี้มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อทั้งสองฝ่าย เนื่องจากจะช่วยผลักดันและเสริมสร้างสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานให้แน่นแฟ้นมากขึ้น และสร้างแรงผลักดันที่สำคัญต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี
 นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเช็ก เป็ตร์ ฟียาลา (AFP) |
เวียดนามและสาธารณรัฐเช็กสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 1950 ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งสองประเทศได้ธำงสัมพันธไมตรีและความร่วมมือเพื่อร่วมกันพัฒนามาโดยตลอด
ผลความร่วมมือที่ดีงามในหลายด้าน
ในตลอด 73 ปีนับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต สาธารณรัฐเช็กได้ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมมือกับเวียดนามในหลายด้านอยู่เสมอ เช่น การรับเจ้าหน้าที่ วิศวกรและแรงงานเวียดนามไปศึกษาและทำงานในสาธารณรัฐเช็ก และเป็นประเทศแรกในยุโรปกลางที่สนับสนุนเงินทุนเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการหรือโอดีเอให้แก่เวียดนาม ปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายยังคงประสานงานในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง
ในด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองประเทศได้ใช้ประโยชน์และสนับสนุนกันเพื่อร่วมกันพัฒนา โดยเมื่อปีที่แล้ว มูลค่าการค้าต่างตอบแทนบรรลุเกือบ 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับ 2021 ในด้านการลงทุน จนถึงสิ้นปีที่แล้ว สาธารณรัฐเช็กมีโครงการกว่า 40 โครงการในเวียดนาม รวมยอดเงินทุน 92 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สาธารณรัฐเช็กสนับสนุนการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหภาพยุโรปกับเวียดนามหรือ EVFTA อย่างเข้มแข็ง และเป็นหนึ่งในประเทศแรกในสหภาพยุโรปที่ให้สัตยาบันข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนสหภาพยุโรป-เวียดนามหรือ EVIPA ปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่เพื่อร่วมมือในด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวมากขึ้น สาธารณรัฐเช็กเป็นประตูสู่สหภาพยุโรปสำหรับสถานประกอบการเวียดนาม ในขณะที่เวียดนามเป็นตลาดที่เต็มไปด้วยศักยภาพสำหรับบริษัทจากสาธารณรัฐเช็ก
ในด้านการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน ชุมชนชาวเวียดนามในสาธารณรัฐเช็กมีประมาณ 100,000 คน ซึ่งเป็นชุมชนชาวเวียดนามแห่งแรกในต่างประเทศที่ได้รับการรับรองให้เป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ในสาธารณรัฐเช็กเมื่อปี 2013 โดยชุมชนชาวเวียดนามมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศซึ่งได้รับการชื่นชมเป็นอย่างสูงจากรัฐบาลสาธารณรัฐ เมื่อกล่าวถึงความร่วมมือด้านสังคมระหว่างทั้งสองประเทศ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสาธารณรัฐเช็ก ท้ายซวนหยุง ประเมินว่า
“ความสัมพันธ์ร่วมมือในหลายด้านระหว่างทั้งสองประเทศมีความแน่นแฟ้นมากขึ้นและมีนิมิตหมายที่โดดเด่นเมื่อทั้งสองฝ่ายร่วมมือและร่วมกันต่อสู้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งแสดงอย่างเด่นชัดเมื่อชุมชนชาวเวียดนามในสาธารณรัฐเช็กเป็นฝ่ายรุก มีความกระตือรือร้นและร่วมมือกับรัฐบาลและประชาชนสาธารณรัฐเช็ก ส่วนสาธารณรัฐเช็กยังเป็นประเทศแรกในสหภาพยุโรปที่สนับสนุนวัคซีนให้แก่เวียดนามและเดินพร้อมกับเวียดนามในการป้องกันโรคระบาด”
สำหรับความร่วมมือด้านวัฒนธรรม สาธารณรัฐเช็กกำลังมุ่งสู่การจัดตั้งศูนย์สาธารณเช็กในเวียดนามเพื่อส่งเสริมการทูตเชิงวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ ส่งเสริมความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างกัน อีกทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสาธารณรัฐเช็กสู่ประชาชนเวียดนาม
 เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสาธารณรัฐเช็ก ท้ายซวนหยุง (ภาพ: สถานทูตเวียดนามในสาธารณรัฐเช็ก) |
การเยือนเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงสัมพันธไมตรีและความร่วมมือที่พัฒนามากขึ้น
ตามความเห็นของเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กประจำเวียดนาม Hynek Kmonícek การเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรี เป็ตร์ ฟียาลา เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงสัมพันธไมตรีและความร่วมมือที่พัฒนามากขึ้นระหว่างสาธารณรัฐเช็กกับเวียดนาม ในกรอบการเยือนครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะหารือเกี่ยวกับปัญหาทางการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคม และกำหนดแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมในการปฏิบัติข้อตกลง EVFTA อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อมและการประกอบรถยนต์ ในการเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี เป็ตร์ ฟียาลา ยังมีผู้แทนของกลุ่มบริษัทและบริษัทใหญ่ๆของสาธารณรัฐเช็กที่มาแสวงหาโอกาสการลงทุนและขยายตลาด
เช่นเดียวกับความเห็นของเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กประจำเวียดนาม Hynek Kmonícek เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสาธารณรัฐเช็ก ท้ายซวนหยุง ยืนยันว่า
“การเยือนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างและกระชับสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานระหว่างสองประเทศ สร้างพื้นฐานเพื่อผลักดัน ยกระดับประสิทธิภาพของความร่วมมือในหลายด้านระหว่างสองประเทศเพื่อมีส่วนร่วมต่อการนำความสัมพันธ์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐเช็กพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ การลงนามเอกสารความร่วมมือหลายฉบับจะเป็นแรงผลักดัน สร้างพื้นฐานทางนิตินัยให้แก่การใช้ประโยชน์จากศักยภาพและจุดแข็งของทั้งสองประเทศและสร้างพลังขับเคลื่อนที่สำคัญเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี”
เวียดนามและสาธารณรัฐเช็กมีสัมพันธไมตรีและความร่วมมือกันมาช้านาน การสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองประเทศเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อส่งเสริมเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค การเยือนของนายกรัฐมนตรี เป็ตร์ ฟียาลา จะมีส่วนร่วมทำให้ความร่วมมือระหว่างสองประเทศมีความลึกซึ้งมากขึ้นและช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐเช็ก.