(VOVworld) –  วันที่๑๘เดือนนี้ ท่านเจืองเติ้นซาง ประธานประเทศพร้อมภริยาและคณะผู้แทนระดับสูงของเวียดนามได้เดินทางไปเยือนราชอาณาจักรเดนมาร์กอย่างเป็นทางการเป็นเวลา๓วันในฐานะพระราชอาคันตุกะของสมเด็จพระราชินีมาร์เกรเธอที่๒แห่งเดนมาร์ก 

เดนมาร์กตั้งอยู่ในยุโรปเหนือและเป็นหนึ่งในประเทศตะวันตกแรกๆที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนามเมื่อวันที่๒๕พฤศจิกายนปี๑๙๗๑และเป็นประเทศที่มีขบวนการประชาชนให้การสนับสนุนสงครามกู้ชาติของประชาชนเวียดนาม นับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต สัมพันธไมตรีและความร่วมมือที่มีมาช้านานระหว่างสองประเทศได้พัฒนาอย่างดีงาม ทั้งสองประเทศแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงเป็นประจำ ในการเยือนเดนมาร์กของท่านเหงวียนเติ้นหยุงนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เมื่อเดือนกันยายนปี๒๐๐๙ ทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องกันยกระดับความสัมพันธ์เป็น“หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา ”บนพื้นฐานแห่งความเสมอภาค มีเสถียรภาพอันยาวนาน ประสานผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน เน้นการผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ด้านวัฒนธรรม การศึกษา ฝึกอบรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ส่วนในการเสด็จมาเยือนเวียดนามของสมเด็จเจ้าฟ้าชายเฟรเดริก มกุฏราชกุมารแห่งเดนมาร์ก เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี๒๐๑๑ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ พลังงาน สิ่งแวดล้อม และการขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม            เดนมาร์กเป็นหนึ่งในประเทศยุโรปเหนือที่ได้ลงทุนในเวียดนามมายาวนานซึ่งจนถึงปลายเดือนพฤษภาคมปี๒๐๑๓ เดนมาร์กมีโครงการลงทุนในเวียดนาม๑๐๖โครงการ รวมยอดเงินทุนจดทะเบียนกว่า๖๗๔ล้านเหรียญสหรัฐ อยู่อันดับที่๒๕ในจำนวน๑๐๐ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนาม เดนมาร์กยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาหรือODAแก่เวียดนามมายาวนานและปัจจุบันอยู่ในกลุ่มประเทศที่จัดสรรเงินODAในรูปให้เปล่าแก่เวียดนามมากที่สุด นับตั้งแต่ปี๑๙๗๑มาจนถึงปัจจุบัน เดนมาร์กได้ช่วยเหลือเงินODAแก่เวียดนามเกือบ๑พัน๒ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ ในเวลาที่ผ่านมา คำมั่นสัญญาช่วยเหลือต่างๆของเดนมาร์กคิดเป็นเงินประมาณ๖๔ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี วงเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาของเดนมาร์กเน้นในด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน แก้ปัญหาความยากจน การพัฒนาอย่างยั่งยืน การปฏิรูประเบียบราชการและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เฉพาะในด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ  จนถึงปัจจุบัน เดนมาร์กถือเป็นนักอุปถัมภ์รายใหญ่ที่สุดให้แก่เวียดนาม รวมมูลค่า๔๐ล้านเหรียญสหรัฐให้แก่“โครงการปรับตัวและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ”   ปัจจุบัน เวียดนามเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่เดนมาร์กปฏิบัติโครงการวิจัยการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ นอกจากความช่วยเหลือด้านเงินทุนแล้ว เดนมาร์กยังถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านจัดสรรการระบายน้ำและการแก้ไขปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อมให้แก่เวียดนาม เวียดนามเป็นประเทศกำลังพัฒนา ดังนั้น ความช่วยเหลือของเดนมาร์กด้านเงินทุนและการถ่ายทอดเทคโนโลยีจะมีส่วนช่วยเวียดนามฟันฝ่าความท้าทายบนเส้นทางแห่งการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ในการเยือนเวียดนาม เมื่อเร็วๆนี้ นายPia Olsen Dyhr รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์และลงทุนเดนมาร์กได้กล่าวว่า “การถ่ายทอดเทคโนโลยีการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลเดนมาร์กให้แก่เวียดนามไม่เพียงแต่ช่วยแก้ไขปัญหาปัจจุบันในเวียดนามเท่านั้นหากยังช่วยเวียดนามรับมือกับปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติในโลกเพื่อนำการขยายตัวที่ยั่งยืนมาให้แก่ทั้งสองประเทศ”   ในระยะใหม่ เมื่อเศรษฐกิจโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายได้ทำให้ทั้งสองประเทศกำลังมีโอกาสใหม่มากมายเช่นกันเพื่อผลักดันความร่วมมือ นายJohn Nielsen เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำเวียดนามได้กล่าวว่า ทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะ ชมรมนักธุรกิจควรใช้ประโยชน์ศักยภาพและจุดแข็งของแต่ละฝ่ายอย่างเต็มที่เพื่อให้ความร่วมมือนำมาซึ่งผลประโยชน์สูงสุด มีส่วนร่วมแปรความสัมพันธ์หุ้นส่วนเวียดนาม–เดนมาร์กให้เป็นรูปธรรม“นักธุรกิจเวียดนามและเดนมาร์กมีศักยภาพความร่วมมือสูง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาค เวียดนามมีความได้เปรียบในการแข่งขันมากมาย เช่น มีตลาดแรงงานที่อุดมสมบูรณ์ ค่าจ้างแรงงานถูก เวียดนามควรเน้นสถานปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนกับนักธุรกิจเดนมาร์ก เพราะบริษัทต่างๆของเดนมาร์กอาจถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่พร้อมกับเคล็ดลับเพื่อช่วยเหลือการฝึกอบรมและสนับสนุนด้านเครื่องจักร”ในการปฏิบัติข้อตกลงที่ได้ลงนามกัน เวียดนามและเดนมาร์กกำลังพยายามปฏิบัติความร่วมมือในด้านอื่นๆ เช่น การศึกษา ฝึกอบรม การท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การแลกเปลี่ยนศิลปะวัฒนธรรมที่นับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้นได้มีส่วนร่วมขยายความเข้าใจระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ  ความสัมพันธ์อันดีงามในเวลาที่ผ่านมาจะสร้างพื้นฐานเพื่อให้ทั้งสองประเทศแสวงหามาตรการต่างๆเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ผ่านการเยือนครั้งนี้ของประธานประเทศเวียดนามเจืองเติ้นซาง สำหรับเวียดนาม การเยือนเดนมาร์กครั้งนี้ของประธานเจืองเติ้นซางไม่เพียงแต่เพื่อขยายสัมพันธไมตรีและความร่วมมือในหลายด้านกับเดนมาร์กเท่านั้นหากยังเพื่อปฏิบัติแนวทางต่างประเทศที่อิสระ เป็นตัวของตัวเอง มีความ สัมพันธ์ต่างประเทศหลายรูปแบบหลายฝ่ายและยกระดับสถานะและบทบาทของเวียดนามให้สูงเด่นเป็นที่ยอมรับในยุโรปและโลก ./.