(VOVWORLD) - นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก กำลังอยู่ระหว่างการเยือนเนเธอร์แลนด์ในระหว่างวันที่ 9-11 กรกฎาคมตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี มาร์ค รูทท์ การเยือนมีขึ้นในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับเนเธอร์แลนด์กำลังพัฒนาอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในด้านการเกษตรและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ข้าวคือสินค้าที่เวียดนามมีจุดแข็งส่งออกไปยังเนเธอร์แลนด์ (vietnamplus) |
เนเธอร์แลนด์คือประเทศเล็กที่ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลยุโรปตะวันตก หน่วยงานการเกษตรของประเทศนี้คิดเป็นร้อยละ 1.6 ของจีดีพี แต่เนเธอร์แลนด์สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์การเกษตรได้เป็นจำนวนมากและเน้นการผลิตเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน
ในขณะเดียวกัน เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประวัติศาสตร์ด้านเศรษฐกิจที่มีความผูกพันกับการเกษตรโดยมีความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์และสภาพภูมิอากาศ ในหลายปีที่ผ่านมา หน่วยงานการเกษตรเวียดนามได้มีก้าวพัฒนาที่เป็นก้าวกระโดดซึ่งบรรลุผลงานที่น่ายินดี
เวียดนามและเนเธอร์แลนด์กลายเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ด้านการเกษตรอย่างยั่งยืนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทั้งสองฝ่ายได้กำหนดกรอบความร่วมมือใน 5 ด้านที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ประกอบด้วยการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การบริหารจัดการน้ำ การเกษตร พลังงาน เศรษฐกิจทางทะเลและขนส่งโลจิสติกส์
หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการเกษตรอย่างยั่งยืน
เวียดนามและเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศส่งออกผลิตภัณฑ์การเกษตรรายใหญ่ของโลกและตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลเหมือนกัน มีสถานะทางภูมิศาสตร์เชิงยุทธศาสตร์และมีเขตที่ราบลุ่มที่กว้างใหญ่ อีกทั้งต้องเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร ในหลายปีที่ผ่านมา จากประสบการณ์ ทักษะความสามารถและเทคโนโลยี เนเธอร์แลนด์ได้ให้การช่วยเหลือเวียดนามพัฒนาการผลิตเกษตรอย่างยั่งยืน อีกทั้งให้การช่วยเหลือเวียดนามเป็นอย่างมากในการถ่ายทอดวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี โดยเฉพาะในด้านผักผลไม้ ปศุสัตว์การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและกาแฟ ทั้งสองประเทศได้ลงนามข้อตกลงร่วมมือในด้านการเกษตรหลายฉบับ เช่นการผลิตเนื้อสัตว์ มันฝรั่ง เป็นต้น เนเธอร์แลนด์ยังให้การช่วยเหลือเวียดนามในการจัดทำยุทธศาสตร์แห่งชาติเกี่ยวกับแหล่งน้ำสำหรับการผลิตอาหารและระบบนิเวศ การรักษาความปลอดภัยด้านอาหาร การเลี้ยงปลาทูน่าอย่างยั่งยืนและเข้าร่วมข้อตกลงด้านสัตว์น้ำระหว่างประเทศฉบับต่างๆ อีกทั้งช่วยเวียดนามวิจัยและประเมินผลกระทบของการเลี้ยงปลาบาซาต่อสิ่งแวดล้อมในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง
เพื่อใช้ความได้เปรียบจากความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างสองประเทศ สถานประกอบการด้านการเกษตรที่มีชื่อเสียงของเนเธอร์แลนด์หลายแห่ง เช่น ABC logistic Kooppert Biological Hortimax ได้เดินทางมาเวียดนามเพื่อแสวงหาหุ้นส่วน โดยนำเทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ไปจนถึงอาหารแปรรูป
นิมิตหมายของความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างสองประเทศได้สะท้อนให้เห็นอย่างอย่างชัดเจนผ่านการลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการเกษตรอย่างยั่งยืนและความปลอดภัยด้านอาหารปี 2014 ผู้นำทั้งสองประเทศได้ประเมินว่า ความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับเนเธอร์แลนด์ในด้านการเกษตรได้มีก้าวเดินที่สำคัญ และในอนาคตอันใกล้นี้ ความสัมพันธ์นี้จะมีโอกาสพัฒนามากขึ้นเมื่อความเชื่อมโยงระหว่างสถานประกอบการด้านการเกษตรระหว่างเนเธอร์แลนด์กับหุ้นส่วนต่างๆในหน่วยงานการเกษตรของเวียดนามมีความร่วมมือกันมากขึ้น
พิธีลงนามบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการเกษตรเวียดนาม-เนเธอร์แลนด์ (vietnamplus) |
นำความร่วมมือเวียดนาม-เนเธอร์แลดน์ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศกลายเป็นตัวอย่าง
ในตลอด 44 ปีที่ผ่านมา เวียดนาม-เนเธอร์แลนด์ได้พัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนขึ้นเป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการบริหารจัดการน้ำเมื่อปี 2010 จนถึงขณะนี้ ทั้งสองประเทศได้จัดการประชุมคณะกรรมการร่วมรัฐบาลในด้านดังกล่าว 6 ครั้ง ในการประชุมครั้งที่ 6 ณ เนเธอร์แลนด์เมื่อเดือนเมษายนปี 2017 ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือ อัพเดทและปฏิบัติแผนปฏิบัติงานเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงในเวลาที่จะถึง เวียดนามและเนเธอร์แลนด์ได้เห็นพ้องที่จะปฏิบัติโครงการที่เป็นรูปธรรมและแผนการด้านการเงินให้แก่โครงการ “นครโฮจิมินห์พัฒนามุ่งสู่ทะเล รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ” หารือเกี่ยวกับการปฏิบัติการวางแผนทรัพยากรน้ำในลุ่มแม่น้ำแดง แม่น้ำท้ายบิ่งในช่วงปี 2020-2030 และวิสัยทัศน์ 2050 ประเมินเกี่ยวกับศักยภาพของโครงการหลักด้านภูมิศาสตร์เกี่ยวกับน้ำและการเกษตรในเวียดนาม
ความร่วมมือเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศก็ได้รับการผลักดันในระดับท้องถิ่น จนถึงขณะนี้ จังหวัดและนครต่างๆของเวียดนามได้ร่วมมือกับท้องถิ่นต่างๆของเนเธอร์แลนด์ในการพัฒนาตัวเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การจัดสรรน้ำประปา การบำบัดน้ำเสีย การบริหารจัดการน้ำ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการบริหารความเสี่ยงปัญหาน้ำท่วมจากแม่น้ำแดง ควบคู่กับความร่วมมือด้านการวางผังเมืองแบบบูรณาการ การบริหารตัวเมือง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานและระดับบคมนาคมที่อัฉจริยะ
ปัจจุบัน เวียดนามมีความประสงค์ว่า เนเธอร์แลนด์จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แหล่งบุคลากร เงินทุนและเทคโนโลยีเพื่อให้การช่วยเหลือเวียดนามแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วน เช่นการรับมือกับภัยแล้ง ปัญหาทะเลซึม โดยเฉพาะปัญหาดินทรุดและการกัดเซาะชายฝั่ง
การเยือนเนเธอร์แลนด์ครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงียนซวนฟุก มีส่วนร่วมเสริมสร้างความสัมพันธ์ร่วมมือเวียดนาม-เนเธอร์แลนด์ในหลายด้าน โดยเฉพาะการเปิดโอกาสร่วมมือใหม่ในด้านการเกษตรชนบทและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ค่อยๆนำความร่วมมือในด้านนี้ให้กลายเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของความร่วมมือระหว่างประเทศ.