(VOVworld) – ความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสหประชาชาติเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นเกี่ยวกับความร่วมมือพัฒนาระหว่างสหประชาชาติกับบรรดาประเทศสมาชิกและบทบาทของสหประชาชาติในการผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ก่อนที่จะเสร็จสิ้นการปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 5 ปีในเวียดนามเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ดอกเตอร์ Pratibha Mehta ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำเวียดนามได้แสดงความประทับใจเกี่ยวกับประเทศเวียดนาม ผลสำเร็จของเวียดนามในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกและความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพระหว่างเวียดนามกับสหประชาชาติในเวลาที่ผ่านมา

ดอกเตอร์ Pratibha Mehta ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำเวียดนาม

ในตลอดเกือบ 40 ปีที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติ ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหประชาชาตินับวันได้รับการขยายอย่างกว้างลึกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยโครงการต่างๆของสหประชาชาติสอดคล้องกับชีวิตความเป็นอยู่และการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมของเวียดนาม
ความร่วมมือที่นับวันสมบูรณ์มากขึ้น
นาง Pratibha Mehta เผยว่า เวียดนามเป็นตัวอย่างแห่งความสำเร็จ หลังจากที่ทำการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศเป็นเวลา 30 ปี เวียดนามได้เสร็จสิ้นการปฏิบัติเป้าหมายสหัสวรรษต่างๆของสหประชาชาติ โดยสามารถปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ค้ำประกันให้ประชาชนทุกคนได้รับประโยชน์จากผลสำเร็จของกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก จากการเป็นประเทศที่ถูกโดดเดี่ยวและคว่ำบาตรหลังสงคราม เวียดนามนับวันยิ่งผสมผสานเข้ากับภูมิภาคและโลกมากขึ้น โดยมีสถานะและบทบาทที่นับวันยิ่งสูงเด่นบนเวทีโลก โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่สะท้อนการปรากฎตัวของเวียดนามในกลไกความร่วมมือต่างๆของสหประชาชาติ “ใน 5 ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้เข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและนับวันผสมผสานเข้ากับกิจกรรมต่างๆของสหประชาชาติ เป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนวาระปี 2014-2016 เป็นสมาชิกของสภาเศรษฐกิจ – สังคมของสหประชาชาติวาระปี 2014-2016 เข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ณ ประเทศซูดานใต้และจัดตั้งศูนย์รักษาสันติภาพ ดิฉันคิดว่า นี่เป็นการสะท้อนความร่วมมือที่นับวันยิ่งสมบูรณ์มากขึ้นระหว่างสหประชาชาติกับเวียดนาม”
การขยายความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหประชาชาติสามารถแบ่งเป็นระยะต่างๆ โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีที่แล้ว สหประชาชาติได้ปฏิบัติหลายโครงการในเวียดนาม ซึ่งเน้นแก้ปัญหาต่างๆของประเทศที่มีรายได้ปานกลางในระดับต่ำและให้การช่วยเหลือด้านนโยบาย นาง Pratibha Mehta ได้แสดงความประทับใจเกี่ยวกับประเทศเวียดนามในช่วงเวลานั้นว่า “ถ้าหากมองกลับไปใน 5 ปีที่ผ่านมา ดิฉันรู้สึกประทับใจมากที่สุดเกี่ยวกับการปรับปรุงรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการรับฟังเสียงสะท้อนของประชาชน รัฐธรรมนูญได้เผยแพร่บนอินเตอร์เน็ตเพื่อรวบรวมความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมาก นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญของเวียดนามยังผลักดันปัญหาสิทธิมนุษยชน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 ได้ออกมติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคำมั่นที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับปัญหานี้”
เวียดนามสร้างความประทับใจมากมาย
ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำเวียดนามเป็นเวลา 5 ปี นาง Pratibha Mehta ได้มีโอกาสลงพื้นที่จังหวัดต่างๆของเวียดนาม ร่วมกับรัฐบาลเวียดนามปฏิบัติโครงการสนับสนุนการปรับปรุงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง เช่น การแก้ปัญหาความยากจน การปฏิรูปด้านตุลาการ การปรับปรุงคุณภาพการให้บริการด้านสาธารณสุขและการศึกษา เป็นต้น นาง Pratibha Mehta ได้แสดงความประทับใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ดิฉันรู้สึกประทับใจมากเกี่ยวกับเวียดนาม เมื่อดิฉันเริ่มมารับหน้าที่ผู้ปรึกษางานของสหประชาชาติประจำเวียดนามเมื่อปี 2012 เวียดนามเริ่มประสบวิกฤตด้านการเงิน แต่ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาใด ดิฉันก็เห็นความตระตือรือร้นของรัฐบาลเวียดนามในการแก้ไขปัญหานี้ สิ่งที่สร้างความประทับใจต่อดิฉันอีกอย่างหนึ่งคือคนเวียดนามที่มีความขยันหมั่นเพียร เฉลียวฉลาด และกล้าหาญ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ดิฉันประทับใจเรื่องที่เขาพูด เขาทำและความปรารถนาที่จะมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ”
กระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกได้เปิดโอกาสใหม่ๆให้แก่เวียดนาม ซึ่งถือเป็นพื้นฐานให้เวียดนามมีส่วนร่วมในฟอรั่มและองค์กรระดับภูมิภาคและโลก พร้อมทั้งเป็นพื้นฐานให้เวียดนามขยายความร่วมมือ การพบปะสังสรรค์ด้านวัฒนธรรมกับประเทศต่างๆ นาง Pratibha Mehta เผยว่า โลกได้รู้จักประเทศเวียดนามที่กล้าหาญในอดีตและปัจจุบันนี้ เวียดนามยังมีคุณค่าด้านวัฒนธรรมที่ต้องประชาสัมพันธ์อีกมาก นี่คือเอกลักษณ์ที่มีส่วนร่วมส่งเสริมความแข็งแกร่งของเวียดนาม ดังนั้น แม้จะผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างเข้มแข็งแต่เวียดนามก็ต้องรักษา อนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่านี้อยู่เสมอ นี่ก็คือความพยายามของสหประชาชาติและสหประชาชาติจะเดินพร้อมกับเวียดนามต่อไปในเวลาข้างหน้า.