เสรีภาพด้านความเชื่อและศาสนาในเวียดนามได้รับการค้ำประกันอยู่เสมอ
Thu Hoa -  
(VOVWORLD) - กลุ่มอิทธิพลที่เป็นอริและต่อต้านพรรคและรัฐเวียดนามมักอ้างว่า ศาสนาต่างๆในเวียดนามถูกปราบปรามและควบคุม ประชาชนไม่มีสิทธิ์ในการนับถือศาสนาและความเชื่ออย่างเสรี แต่ในทางเป็นจริง กิจกรรมทางศาสนาและความเชื่อที่ถูกต้องตามกฎหมายในเวียดนามได้มีขึ้นอย่างคึกคักและหลากหลายในทั่วประเทศโดยไม่ถูกขัดขวางแต่อย่างใด
ภาพงานวิสาขบูชาโลกปี 2019 ณ จังหวัดห่านาม (Photo: คณะกรรมการศาสนาของรัฐบาล) |
เวียดนามเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางศาสนา โดยมีองค์กรศาสนา 43 องค์กรจาก 16ศาสนาที่ได้รับการรับรองสถานะทางนิตินัย การพัฒนาขององค์การศาสนาทำให้จำนวนผู้นับถือศาสนาต่างๆและกิจกรรมทางศาสนาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันประชากรเวียดนามร้อยละ 95มีกิจกรรมด้านความเชื่อ โดยประชากรกว่า 24.3 ล้านคนนับถือศาสนา คิดเป็นร้อยละ 27ของประชากรทั่วประเทศ ผู้ที่มีสมณศักดิ์มีเกือบ5 หมื่น 3พันคนและศาสนสถานเกือบ 28,000 แห่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงนโยบายที่เปิดกว้างเกี่ยวกับเสรีภาพด้านความเชื่อและศาสนาในเวียดนามและคำมั่นของพรรค รัฐและรัฐบาลเวียดนามในการจัดทำแนวทาง นโยบายสร้างสรรค์กฎหมายด้านศาสนา สิ่งที่สำคัญคือการประกอบศาสนกิจและกิจกรรมด้านความเชื่อของประชาชนได้มีขึ้นอย่างคึกคัก ประชาชนเวียดนามมีสิทธิ์เลือกแสดงความเลื่อมใสและนับถือหรือไม่นับถือศาสนาเหมือนประเทศอื่นๆในโลก นาย โด๊ะกวางฮึง หัวหน้าสภาที่ปรึกษาด้านศาสนาของแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามได้เผยว่า“ศาสนา ความเชื่อและชีวิตทางจิตวิญญาณคือสามเสาหลักของชีวิตทางจิตใจของมนุษย์ โดยสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนในเวียดนามเพราะเวียดนามเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางศาสนา ส่วนผลการวิจัยศาสนาระหว่างประเทศระบุว่า เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความโดดเด่นในเรื่อง การเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกและตระหนักถึงความสำคัญของศาสนา ซึ่งเป็นสิ่งที่มีภาวะวิสัย โดยโครงสร้างพื้นฐานและการประกอบศาสนกิจขององค์กรศาสนาต่างๆมีความหลากหลายและตอบสนองความต้องการของผู้นับถือศาสนาต่างๆในเวียดนาม ส่วนชาวต่างชาติได้ยอมรับว่า ในช่วง 7-8 ปีมานี้ เวียดนามยังได้แก้ไขปัญหาที่สำคัญด้านเสรีภาพทางศาสนา นั่นคือการประกอบศาสนกิจของชาวต่างชาติในเวียดนาม ซึ่งถือเป็นก้าวเดินที่เข้มแข็งของรัฐ โดยคนต่างชาติไม่เพียงแต่เข้าร่วมการประกอบศาสนกิจในศาสนสถานต่างๆเท่านั้น หากยังได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรมทางศาสนาและเช่าอาคารสถานที่เพื่อประกอบศาสนกิจอีกด้วย นอกจากนี้ กิจกรรมระหว่างประเทศขององค์กรศาสนาในเวียดนามก็มีการพัฒนาเป็นอย่างมาก โดยผู้ที่นับถือศาสนาต่างๆในเวียดนามสามารถไปรักษาโรค เข้าร่วมการสัมมนาเชิงวิชาการและกิจกรรมทางศาสนาในต่างประเทศได้อย่างสะดวก”
นโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของรัฐเวียดนามคือให้ความเคารพและค้ำประกันสิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อและศาสนา โดยสิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อและนับถือศาสนาหรือไม่นับถือศาสนาของพลเมืองถูกระบุในรัฐธรรมนูญและกฎหมายเวียดนามและได้รับการค้ำประกันในการปฏิบัติ โดยเฉพาะการที่กฎหมายความเลื่อมใสและศาสนา ปี 2016ของเวียดนาม ได้รับการบังคับใช้นั้นได้กำหนดสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองเกี่ยวกับเสรีภาพด้านความเชื่อ การนับถือหรือไม่นับถือศาสนาเพื่อค้ำประกันสิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อและศาสนาของพลเมืองและองค์กรศาสนา นาย โด๊ะกวางฮึงเผยต่อไปว่า“กฎหมายฉบับนี้มีจุดใหม่ที่สำคัญ 3ข้อ หนึ่งคือเป็นครั้งแรกที่ข้อกำหนดเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อและศาสนาของประชาชนได้รับการค้ำประกันอย่างสมบูรณ์และสอดคล้องกับอนุสัญญาระหว่างประเทศมากขึ้น สองคือกฎหมายฉบับนี้ช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของศาสนา เช่น ศาสนสถาน ที่ดิน ทรัพย์สินขององค์กรศาสนา รวมทั้งปัญหาด้านสื่อมวลชน การตีพิมพ์และการสื่อสาร ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เวียดนามมีกฎหมายที่สมบูรณ์ในด้านนี้ มีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาขั้นพื้นฐานต่างๆ สิ่งที่สามารถเห็นได้ชัดคือรัฐได้ส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้แก่ทุกองค์กรศาสนาในการก่อสร้างสถานที่อบรมผู้ที่มีสมณศักดิ์ สามคือมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมการปฏิบัติสิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อและศาสนาของประชาชนและองค์กรศาสนา นอกจากสิทธิและผลประโยชน์ต่างๆ องค์กรศาสนาก็มีหน้าที่ต่างๆ โดยเฉพาะผู้บริหารสมาคมและองค์กรศาสนาและแนวร่วมปิตุภูมิในฐานะเป็นองค์กรการเมืองสังคมที่ใหญ่ที่สุดมีบทบาทในการตรวจสอบและอำนวยความสะดวกให้แก่การปฏิบัติกฎหมายดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ”
ปัญหาศาสนาและความเชื่อได้ถูกบางประเทศและกลุ่มอิทธิพลที่เป็นอริใช้เป็นข้ออ้างเพื่อแทรกแซงกิจการภายในของเวียดนาม แต่อย่างไรก็ดี การประกอบศาสนกิจในชีวิตของประชาชนและองค์กรศาสนาในเวียดนามที่ได้รับการเคารพและค้ำประกันในทางเป็นจริงนั้นถือเป็นคำตอบที่เข้มแข็งเพื่อตอบโต้คารมที่บิดเบือนความจริงและที่ใส่ร้ายป้ายสีเวียดนามในปัญหานี้.
Thu Hoa