เสรีภาพสื่อมวลชนเป็นผลสำเร็จที่ชัดเจนด้านสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม
Thu Hoa - VOV5 -  
VOVworld - ความก้าวหน้าเกี่ยวกับเสรีภาพสื่อมวลชนและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของเวียดนามได้มีส่วนร่วมสำคัญต่อภารกิจการพัฒนามนุษย์ของเวียดนาม
VOVworld - ความก้าวหน้าเกี่ยวกับเสรีภาพสื่อมวลชนและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของเวียดนามได้มีส่วนร่วมสำคัญต่อภารกิจการพัฒนามนุษย์ของเวียดนาม ต่อไปนี้ขอเสนอบทความ “เสรีภาพสื่อมวลชนเป็นผลสำเร็จที่ชัดเจนด้านสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม” เนื่องในโอกาสรำลึกครอบรอบ 89 ปีวันสื่อมวลชนปฏิวัติเวียดนาม 21 มิถุนายนและในโอกาสที่เวียดนามรายงานผลการปฏิบัติข้อเสนอของการประชุมรายงานยูพีอาร์ครั้งที่ 18 ในการประชุมครั้งที่ 26 ของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่กำลังมีขึ้น ณ เมืองเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
|
เสรีภาพสื่อมวลชนเป็นผลสำเร็จที่ชัดเจนด้านสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม
|
เมื่อกล่าวถึงการพัฒนาของสื่อมวลชนเวียดนาม ก็ต้องกล่าวถึงตัวเลขที่น่าประทับใจต่างๆ นั่นคือ ทั่วประเทศมีผู้สื่อข่าวเกือบ 17,000 คน ที่ทำงานในองค์การสื่อสารมวลชนกว่า 830 แห่ง พร้อมทั้งสิ่งพิมพ์เกือบ 1,100 ฉบับ เวียดนามมีสำนักข่าว 1 แห่ง สถานนีโทรทัศน์และวิทยุ 67 แห่ง 101 ช่องโทรทัศน์ 78 คลื่นวิทยุ หนังสือพิมพ์และนิตยสารอิเล็กทรอนิก 74 แห่ง เครือข่ายสังคมออนไลน์ 336 แห่งและเว็ปไซต์สารสนเทศ 1,174 เว็ป ปัจจุบันนี้ ทางสถานีวิทยุเวียดนามสามารถออกอากาศครอบคลุมพื้นที่ในประเทศร้อยละ 99.5 และออกอากาศผ่านดาวเทียมไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก ครอบครัวชาวเวียดนามกว่าร้อยละ 90 ได้รับชมสถานีโทรทัศน์เวียดนาม นอกจากนี้ ชาวเวียดนามยังได้รับข้อมูลข่าวสารผ่านโทรทัศน์ต่างชาติ รวมทั้งสำนักข่าวและหนังสือพิมพ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก 75 ช่อง เช่น ซีเอ็นเอ็น เอเอฟพี เอพี บีบีซี วีโอเอ รอยเตอร์ เกียวโด อีโกโนมิสต์ ไฟแนนเชียล ไทมส์ เป็นต้น
อำนวยความสำดวกให้สื่อมวลชนพัฒนา
เพื่อให้ระบบสื่อมวลชนสามารถตามทันกับการพัฒนา นอกจากกฎระเบียบที่ชัดเจนตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย รัฐเวียดนามยังให้ความสนใจต่อการปรับปรุงระบบกฎหมายให้สมบูรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกให้หน่วยงานสื่อมวลชนปฏิบัติภารกิจของตนให้ลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งช่วยพัฒนาสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนและการแสดงความคิดเห็นในเวียดนาม โดยจะเห็นได้จากการที่เวียดนามได้ออกกฎหมายสื่อมวลชนและเมื่อเดือนพฤษจิกายนปี 2012 รัฐสภาเวียดนามได้อนุมัติกฎหมายการพิมพ์จำหน่ายฉบับแก้ไข ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายคือ ให้การเคารพสิทธิการเผยแพร่ผลงานส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญ ต่อจากนั้นเมื่อถึงเดือนกรกฎาคมปี 2013 เวียดนามได้ประกาศมติที่ 72 เกี่ยวกับการควบคุม การให้และใช้บริการทางอินเตอร์เน็ตและข้อมูลออนไลน์ ซึ่งถือเป็นการสร้างกรอบทางนิตินัยที่สำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกให้สื่อมวลชนเวียดนามพัฒนาต่อไป นายเหงียนบั๊กเซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารและประชาสัมพันธ์เผยว่า “ปัจจุบันนี้ ภายใต้การชี้นำของรัฐบาล ทางกระทรวงเกือบเสร็จสิ้นภารกิจการปรับปรุงร่างกฎหมายการวางแผนสำหรับสื่อมวลชนเวียดนามจนถึงปี 2020 ผมมีความเชื่อมั่นว่า หลังจากที่ได้รับการอนุมัติ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเป็นพื้นฐานให้พวกเราสร้างสรรค์ระบบสื่อมวลชนปฏิวัติที่เข้มแข็ง ทันสมัยและเป็นมืออาชีพในยุคแห่งการพัฒนากลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก พร้อมทั้งสามารถปฏิบัติภารกิจและสิทธิของพลเมืองในกระบวนการปฏิบัติเสรีภาพสื่อมวลชนและในการแสดงความคิดเห็นตามมาตราที่ 15 ของรัฐธรรมนูญปี 2013”
ก่อนหน้านั้น นโยบายพัฒนาอินเตอร์เน็ตเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ วัฒนธรรม สังคมและค้ำประกันสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนได้ช่วยให้เวียดนามอยู่อันดับที่ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอันดับ 8 ของเอเชียด้านจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตและได้เป็นการอำนวยความสะดวกให้สื่อมวลชนทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ออนไลน์ต่างมีการพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่
|
ตัวแทนของรัฐสภาสหรัฐมอบใบรับรองสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของเวียดนาม
ให้แก่เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหรัฐเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา |
เสรีภาพสื่อมวลชนช่วยพัฒนาสิทธิมนุษยชน
การพัฒนาของสื่อมวลชนไม่เพียงแต่ช่วยตอบสนองความต้องการของประชาชนเวียดนามในด้านวัฒนธรรมและเพิ่มความรู้เท่านั้น หากยังเปิดช่องทางที่หลากหลายเพื่อให้องค์การสังคมและประชาชนทุกคนได้แสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะการวิจารณ์แนวทางและนโยบายของรัฐและของทางการปกครองทุกระดับ ยกระดับประชาธิปไตย ปกป้องและพัฒนาคุณค่าของสิทธิมนุษยชน ในบางครั้ง สื่อมวลชนก็เป็นเครื่องมือเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสังคมและสิทธิของประชาชน โดยเฉพาะสิทธิการตรวจสอบและติดตามการปฏิบัตินโยบายและกฎหมายของรัฐอย่างจริงจัง สำนักงานสื่อมวลชนบางแห่งในเวียดนามได้เป็นฝ่ายรุกและมีความกระตือรือร้นในการค้นหาและต่อต้านการคอร์รัปชั่น ตำหนิการกระทำที่ละเมิดสิทธิของพลเมืองและการละเมิดกฎหมายต่างๆ นอกจากนี้ สื่อมวลชนยังเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการหารือ การตั้งและตอบกระทู้ถาม รวมทั้งการวิจารณ์ปัญหาสำคัญของประเทศเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและแสดงความคิดเห็น ทั้งนี้สามารถเห็นได้ชัดว่า ในสังคมที่สิทธิมนุษยชนได้รับการยืนยันและรัฐอำนวยความสะดวกให้แก่การพัฒนาสิทธิมนุษยชนเหมือนที่เวียดนามปฏิบัติจะทำให้เสรีภาพสื่อมวลชนและการแสดงความคิดเห็นมีก้าวพัฒนาและกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องและพัฒนาคุณค่าของสิทธิมนุษยชน
ปัจจุบัน ในทั่วโลก เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและสื่อมวลชนเป็นปัจจัยสำคัญต่อความมีเสถียรภาพและการพัฒนาของแต่ละประเทศ พร้อมทั้งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงแนวความคิดและนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศนั้นๆ ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับสิทธิพลเรือนและการเมืองต่างยืนยันถึงสิทธิขั้นพื้นฐานดังกล่าวและรัฐเวียดนามได้ปฏิบัติตามคำมั่นของตนอย่างจริงจรัง นโยบายที่ถูกต้องของรัฐเวียดนามเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและสื่อมวลชนนับวันยิ่งช่วยให้ชาวเวียดนามได้รับสิทธิดังกล่าวอย่างสมบูรณ์เพื่อสามารถพัฒนาในทุกด้านและมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในภารกิจการพัฒนาสังคม./.
Thu Hoa - VOV5