(VOVWORLD) - เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกและรองนายกรัฐมนตรี เจืองหว่าบิ่งห์ ได้พบปะกับชมรมชนเผ่าเขมรใน 4 จังหวัดและนครในภาคใต้ในโอกาสปีใหม่โจลชนัมทเมย 2019 ในการนี้ ผู้นำรัฐบาลได้ย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของชนเผ่าเขมรในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ อีกทั้งแสดงความประสงค์ว่า ชนเผ่าเขมรจะมีส่วนร่วมต่อไปเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ ที่สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสนใจเป็นพิเศษของผู้นำเวียดนามต่อชนเผ่าเขมรและศาสนาต่างๆ เพื่อมีส่วนร่วมเสริมสร้างกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ
ชนเผ่าเขมรคือหนึ่งใน 54 ชนเผ่าพี่น้องของเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันมีประชากร 1.3 ล้านคนอยู่อาศัยมากที่สุดใน 9 จังหวัดและนครในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง
ความใส่ใจเป็นพิเศษ
การพบปะและอวยพรในโอกาสปีใหม่โจลชนัมทเมยของผู้นำรัฐบาลมีการเข้าร่วมของชนเผ่าเขมรที่เป็นผู้ที่มีสมณศักดิ์ ปัญญาชน ครอบครัวที่อยู่ในเป้านโยบาย นักเรียนและนักศึกษาดีเด่นในจังหวัดและนครต่างๆในภาคใต้ โดยการพบปะนี้นอกจากจัดขึ้นที่หอการประชุมใหญ่แล้วก็ยังจัดขึ้นที่สถานที่ประกอบศาสนกิจและสถานที่ฝึกอบรมด้านศาสนาพุทธนิกายนามตงเขมรอีกด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจเป็นพิเศษของผู้นำรัฐบาลต่อชนเผ่าเขมร ตลอดจนผู้นับถือศาสนา
ไม่เพียงแต่ให้ความใส่ใจถึงปีใหม่ ซึ่งเป็นประเพณีที่สำคัญที่สุดของชนเผ่าเขมรเท่านั้น หากในหลายปีที่ผ่านมา พรรคและรัฐเวียดนามยังคงให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อชนเผ่าและศาสนาต่างๆ รวมทั้งชนเผ่าเขมร ซึ่งสิ่งนี้โดยสะท้อนให้เห็นผ่านการสนับสนุนและการปฏิบัติโครงการใหญ่ๆอย่างเคร่งครัด ให้การช่วยเหลือการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในเขตที่มีชนกลุ่มน้อยอาศัย เขตเขาและนโยบายสวัสดิการสังคม ดูแลภารกิจการพัฒนาวัฒนธรรม การศึกษาและฝึกอบรม การพัฒนาแหล่งทรัพยากร การดูแลสุขภาพให้แก่ประชาชนและช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่พระภิกษุสามเณรนิกายนามตงเขมร
สำหรับอุปสรรคและความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ น้ำทะเลหนุนและปัญหาน้ำทะเลซึมซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตและชีวิตของประชาชน รัฐบาลได้ประกาศใช้และปฏิบัติมติ 120 เกี่ยวกับการพัฒนาเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงที่สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างยั่งยืน ซึ่งช่วยให้โฉมหน้าของเขตชนบทที่มีชนเผ่าเขมรอาศัยเปลี่ยนแปลงใหม่และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ระดับการศึกษาและคุณภาพแหล่งทรัพยากรมนุษย์ได้รับการยกระดับให้สูงขึ้น และในโอกาสปีใหม่โจลชนัมทเมย นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้สั่งให้พิจารณาขยายขอบเขตการฝึกอบรมของสถาบันพุทธศาสนานิกายนามตงเขมรในนครเกิ่นเทอ
เรียกร้องความพร้อมใจเพื่อการพัฒนาของประเทศ
ในการพบปะกับชุมชนเผ่าเขมรครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลได้ชื่นชมส่วนร่วมของชนเผ่าเขมรต่อการพัฒนาของประเทศที่ได้พยายามฟันฝ่าอุปสรรค บรรลุผลงานด้านเศรษฐกิจสังคม รักษาและส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมพื้นเมืองและร่วมแรงร่วมใจในกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ
ผู้นำรัฐบาลยังเรียกร้องให้ชนเผ่าต่างๆ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจและพระภิกษุสามเณรชนเผ่าเขมรส่งเสริมเกียรติประวัติของกลุ่มมหาสมัคคีชนในชาติ ให้ความสำคัญต่อจิตใจแห่งการก้าวรุดหน้าไปเพื่อให้ทุกคนและทุกครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งเข้าร่วมขบวนการแข่งขันรักชาติ รักษาและส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมของประชาชาติ ทำให้ชีวิตด้านวัฒนธรรมและจิตใจของชนเผ่ามีความหลากหลายมากขึ้น
พรรคและรัฐเวียดนามให้ความเคารพและค้ำประกันสิทธิเสรีภาพความเลื่อมใสและการนับถือศาสนาของประชาชน รวมทั้งชนเผ่าเขมร ค้ำประกันให้การประกอบศาสนกิจได้รับการปฏิบัติตามกฎหมาย อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่นับถือศาสนาและผู้ที่มีสมณศักดิ์ในการประกอบศาสนกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นพลเมืองที่ดีของปิตุภูมิ
ชนเผ่าเขมรคือกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีความสำคัญในประชาคมชนเผ่าต่างๆในเวียดนาม ซึ่งการที่รัฐบาลได้ให้ความสนใจที่เป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพและรอบด้านต่อชนเผ่าเขมรจะเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อให้พวกเขาพยายามบรรลุผลงานใหม่ในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม และเป็นพื้นฐานเพื่อเสริมสร้างกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ.