เสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม – ฝรั่งเศสให้ลึกซึ้งมากขึ้น
กระทรวงการต่างประเทศ - แอ๊งเหวี่ยน - วีโอวี 5 -  
(VOVWORLD) -ท่านเหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามกำลังอยู่ระหว่างการเยือนประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของท่าน เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งมีขึ้นในสภาวการณ์ที่ทั้งสองประเทศกำลังฉลองครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและ 5 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นนิมิตรหมายสำคัญและเป็นโอกาสให้ผู้นำทั้งสองประเทศทบทวนผลสำเร็จ กำหนดกรอบความร่วมมือและวางแนวทางเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในยุคใหม่
ชมรมชาวเวียดนามให้การต้อนรับเลขาธิการใหญ่พรรคเหงียนฟู้จ่องในโอกาสเยือนประเทศฝรั่งเศส
|
นับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 12 มีนาคมปี 1973 ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องและบรรลุผลงานที่น่ายินดีต่างๆ และความสัมพันธ์นั้นก็ยิ่งเข้มแข็งมากขึ้นหลังจากที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของอาเซียนเมื่อปี 1995 ซึ่งมิได้อยู่ในกรอบของความสัมพันธ์ทวิภาคีเท่านั้นหากได้อยู่ในกรอบความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรปกับเวียดนามและนโยบายของฝรั่งเศสต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เวียดนามและฝรั่งเศสมีทัศนะคล้ายคลึงกันในปัญหาสำคัญของโลกโดยเฉพาะในปัญหาที่มีเกี่ยวข้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน การส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรมและบทบาทขององค์กรพหุภาคีในการประสานและควบคุมกระบวนการโลกาภิวัตน์
นิมิตรหมายใน 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและ 5 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์
ในตลอด 45 ปีที่ผ่านมา ฝรั่งเศสเป็นหุ้นส่วนชั้นนำของเวียดนาม ความสัมพันธ์ต่างๆในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีนับวันหลากหลายมากขึ้น ฝรั่งเศสเป็นนักอุปถัมภ์ยุโรปชั้นนำของเวียดนาม ข้อตกลงนับร้อยฉบับได้รับการลงนามระหว่างมหาวิทยาลัย ศูนย์วิจัยและมีนักศึกษาเวียดนามประมาณ 7 พันคนกำลังศึกษาในประเทศฝรั่งเศส ความสัมพันธ์ร่วมมือระดับท้องถิ่นก็ได้รับการขยายระหว่างท้องถิ่น 20 แห่งของฝรั่งเศสและ15 จังหวัดและนครของเวียดนาม และได้มีการจัดการประชุมร่วมมือระดับท้องถิ่น 10 ครั้ง ส่วนชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศฝรั่งเศสเป็นชมรมชาวเวียดนามที่เก่าแก่และมีจำนวนมากที่สุดในยุโรป ซึ่งมีความผูกพันกับทั้งสองประเทศและเป็นสะพานเชื่อมสำคัญเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคี ทั้งสองประเทศกำลังมุ่งสู่รูปแบบความร่วมมือใหม่เพื่อค้ำประกันการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านโครงการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาการเกษตร โครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสกำลังสร้างความหวังให้แก่ภูมิภาคที่ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเวียดนามกำลังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
แต่อย่างไรก็ตาม ศักยภาพความร่วมมือระหว่างสองประเทศยังมีอีกมากเนื่องจากมูลค่าการค้าต่างตอบแทนยังไม่สูงมาก คือคิดเป็นร้อยละ 1 ของมูลค่าการนำเข้าและส่งออกของเวียดนามเท่านั้น
ในสภาวการณ์ปัจจุบัน เวียดนามและฝรั่งเศสมีเงื่อนไขที่เอื้อให้แก่การขยายความสัมพันธ์ทวิภาคี ฝรั่งเศสเป็นประเทศแกนหลักในยุโรป มีผลประโยชน์และอิทธิพลสำคัญในเอเชีย เวียดนามคือเศรษฐกิจที่พัฒนารวดเร็วและคล่องตัวมีประชากรเกือบ 100 ล้านคนและมีบทบาทสำคัญในอาเซียนและเอเชียตะวันออก ทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนทัศนะและผลประโยชน์ที่คล้ายคลึงกันในปัญหาระหว่างประเทศ ดังนั้นการขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีถือเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ
การเยือนสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม – ฝรั่งเศส
บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ในตลอด 45 ปีที่ผ่านมา การเยือนฝรั่งเศสครั้งนี้ของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเหงียนฟู้จ่องมีขึ้นในสภาวการณ์ที่ฝรั่งเศสกำลังมีการเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดี โดยเฉพาะหลังจากที่ท่าน เอ็มมานูเอล มาครง ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสเมื่อกลางปี 2017 รัฐบาลชุดใหม่ของฝรั่งเศสกำลังเน้นปฏิรูปเศรษฐกิจ – สังคม พร้อมทั้งพยายามส่งเสริมบทบาทในสหภาพยุโรป เขตตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออกและในการแก้ไขปัญหาระดับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและผลักดันการค้าเสรี
ในสภาวการณ์ที่โลกกำลังมีความผันผวนอย่างรวดเร็วและซับซ้อน เวียดนามและฝรั่งเศสต่างแสดงวิสัยทันท์ร่วมเกี่ยวกับโลกที่มีหลายขั้วและลัทธิพหุภาคีบนพื้นฐานให้ความเคารพระหว่างกัน มีความเสมอภาค ยุติธรรมและร่วมมือบนเจตนารมณ์ที่เอื้อประโยชน์ระหว่างกัน ร่วมกันพยายามเพื่อสันติภาพและการพัฒนาอย่างครอบคลุมและยั่งยืน ในฐานสมาชิกแกนหลักของอียูและอาเซียน เวียดนามและฝรั่งเศสมีบทบาทสำคัญในการผลักดันความสัมพันธ์อียู – อาเซียน เวียดนามเป็นสะพานเชื่อมที่สำคัญให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสกับอาเซียนและฝรั่งเศสจะเป็นสะพานเชื่อมที่มีประสิทธิภาพให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอียู
การเยือนฝรั่งเศสครั้งนี้ของเลขาธิการใหญ่พรรคเหงียนฟู้จ่องเป็นการเยือนประเทศนอกภูมิภาคประเทศแรกของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามนับตั้งแต่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เวียดนามให้ความสำคัญและมีความประสงค์ที่จะขยายความสัมพันธ์ ความเสมอภาคและผลประโยชน์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหุ้นส่วนสำคัญชั้นนำของเวียดนาม การเยือนครั้งนี้ยังเป็นโอกาสให้ผู้นำทั้งสองฝ่ายสรุปผลที่ได้บรรลุในตลอด 45 ปีที่ผ่านมา สร้างกรอบและกำหนดแนวทางใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในยุคต่อๆไป.
กระทรวงการต่างประเทศ - แอ๊งเหวี่ยน - วีโอวี 5