(VOVworld) – ยุโรปกำลังเผชิญกับกระแสผู้อพยพที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพ วุ่นวายและสูญเสียภาพลักษณ์มากขึ้น สิ่งเหล่านี้คือกระแสความคิดเห็นที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจได้มีความคิดเห็นในทางตรงกันข้ามโดยแสดงความเห็นว่า นอกจากความท้าทายแล้ว ผู้อพยพยังมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศที่รับผู้อพยพ โดยเฉพาะการช่วยแก้ไขปัญหาแหล่งบุคลากรให้แก่ยุโรป

ตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงปัจจุบัน ตามการคาดการณ์ของสำนักงานผู้ลี้ภัยสหประชาชาติหรือ UNHCR ได้มีผู้อพยพกว่าครึ่งล้านคนเดินทางไปยังยุโรปซึ่งในนั้นเป็นผู้อพยพซีเรียเกือบ 3 แสน 5 หมื่นคนจากจำนวนชาวซีเรียทั้งหมดกว่า 4 ล้านคนที่อพยพไปหาชีวิตใหม่ในต่างประเทศเนื่องจากปัญหาสงครามและความยากจน ปัจจุบัน ทุกวันมีผู้อพยพนับพันคนยังคงหลั่งไหลพากันไปยังประเทศต่างๆในยุโรปถึงแม้จะต้องเผชิญกับอันตรายในระหว่างการเดินทางก็ตามเพราะพวกเขามีความคาดหวังที่จะหลุดพ้นจากสงครา

ตามรายงานขององค์การความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจหรือโออีซีดี ตั้งแต่ปี 2014 ผู้อพยพคิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนแรงงานที่เพิ่มขึ้นในยุโรปในตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ผู้อพยพได้ช่วยเพิ่มเกณฑ์อายุทำงาน เพิ่มแรงงานในหน่วยงานที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ประเทศที่เปิดรับผู้อพยพต้องการผู้อพยพวัยรุ่นและมีทักษะความสามารถในการทำงานที่ชาวท้องถิ่นทำไม่ได้หรือไม่อยากทำ

ตามรายงานสถิติ จำนวนผู้อพยพเข้าไปยังอียูเพิ่มขึ้น 3 เท่าในปีนี้ คาดว่า ในปลายปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านคนซึ่งทำให้ความต้องการในภูมิภาคนี้ถีบตัวสูงขึ้น ดังนั้น จีดีพีของอียูจะเพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลในทางบวกทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ผู้อพยพสามารถมีส่วนร่วมเป็นอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศที่เปิดรับผู้อพยพ บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้แสดงความเห็นว่า เนื่องจากอัตราการเกิดในยุโรปในหลายทศวรรษที่ผ่านมาอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ปัจจุบัน ภูมิภาคนี้จึงไม่มีแรงงานรุ่นใหม่ที่คล่องตัวฉนั้นผู้อพยพที่มาจากประเทศยากจนและมีสงครามจะช่วยชดเชยการขาดแคลนแรงงานดังกล่าวของยุโรป การเข้าร่วมทำงานของผู้อพยพจะช่วยเพิ่มจีดีพีและภาษีที่ผู้อพยพต้องจ่ายจะช่วยสร้างความสมดุลให้แก่งบประมาณ

เมื่อก่อน ทุกคนมักจะคิดว่า ผู้อพยพส่วนใหญ่คือคนจนและต้องพึ่งพาภาษีของกลุ่มคนรวยในสังคม แต่ในทางเป็นจริง กลุ่มผู้อพยพส่วนใหญ่ต่างทำงานอย่างขยันหมั่นเพียรแต่ได้เงินเดือนน้อยกว่าคนท้องถิ่น ดังนั้น ในด้านเศรษฐกิจ ผู้อพยพไม่ควรถูกถือว่าเป็นการสร้างอุปสรรค์ต่อเศรษฐกิจของประเทศที่เปิดรับผู้อพยพ

นอกจากแง่บวกที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ในทางกลับกัน การเพิ่มการรับผู้อพยพก็หมายความว่า ประเทศนั้นต้องเผชิญกับความไร้เสถียรภาพมากขึ้น

อันดับแรกคือปัญหาการปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ ผู้อพยพที่เคยอยู่อาศัยในเขตที่อันตรายและยากจน จะปรับตัวเข้ากับชาวท้องถิ่นที่อาศัยในเขตที่มีความปลอดภัยและร่ำรวยได้เช่นไร นี่คือคำถามที่จนถึงปัจจุบัน นักเศรษฐศาสตร์ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ถ้าไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ได้ ก็จะเกิดการเลือกปฏิบัติในสังคมซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดความวิตกกังวลนี้ เพราะในทางเป็นจริง ในหลายเดือนมานี้ การชุมนุมประท้วงผู้อพยพได้เกิดขึ้นในหลายประเทศยุโรป โดยเฉพาะหลังจากภูมิภาคนี้เห็นพ้องเกี่ยวกับการจัดสรรโควต้ารับผู้อพยพ ในขณะที่สถานการณ์การตกงานเพิ่มขึ้นโดยอัตราคนว่างงานในฝรั่งเศสอยู่ที่ร้อยละ 11 ในขณะที่สเปนและกรีซอยู่ที่ร้อยละ 22 และร้อยละ 25 ตามลำดับ การรับผู้อพยพเพิ่มเติมจะสร้างอุปสรรคต่อสังคม กระแสผู้อพยพหลั่งไหลเข้ายุโรปจะทำให้กองทุนสวัสดิการสังคมซึ่งได้รับการสมทบโดยชาวท้องถิ่นสำหรับด้านสาธารณสุข การช่วยเหลือการว่างงาน เงินบำนาญและการศึกษาก็จะได้รับผลกระทบ

แต่สิ่งที่น่าวิตกกังวลที่สุดคือผู้ก่อการร้ายสามารถปลอมตัวเป็นผู้อพยพเพื่อเข้าไปยังยุโรป ตามรายงานสถิติล่าสุดของสำนักงานความมั่นคงอียู มีผู้อพยพประมาณ 100 คนถูกสงสัยเป็นอาชญากรและในจำนวนผู้อพยพซีเรีย 100 คนที่เข้าไปยังยุโรปมีผู้ต้องสงสัยว่าเป็นนักรบของกลุ่มไอเอส 2 คน

ยิ่งกว่าเวลาใดทั้งหมด ยุโรปต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายมากมาย วิกฤตการเงินยังไม่สิ้นสุดลง แต่ก็ต้องเผชิญกับวิกฤตผู้อพยพอีก ที่ชัดเจนก็คือ นอกจากผลประโยชน์ที่ไม่มากนักจากผู้อพยพ ประเทศยุโรปกลับต้องสูญเสียหลายสิ่งหลายอย่างโดยไม่เพียงแต่ได้รับผลกระทบด้านความปลอดภัยเท่านั้น แต่กระแสผู้อพยพยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเอกลักษณ์ของยุโรปที่ได้พยายามรักษาไว้มาหลายปี.