โอกาสใหญ่เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันโลก
Bá Thi -  
(VOVWORLD) - ภายหลังความพยายามเป็นอย่างมากของทุกฝ่าย เมื่อวันที่ 12 เมษายน องค์กรร่วมประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออกหรือOPEC+ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบครั้งใหญ่ เพื่อฟื้นฟูราคาและรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันหรือ “ทองคำดำ” ของตลาดโลก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบีย Abdulaziz bin Salman Al-Saud(Reuters) |
ตามข้อตกลงที่ได้บรรลุในการประชุมออนไลน์เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา OPEC + ได้เห็นพ้องลดปริมาณการผลิตน้ำมันมากเป็นประวัติกาลคือ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน คิดเป็นร้อยละ 10 ปริมาณการผลิตนำมันของโลกเป็นเวลา 2 เดือนคือตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายนปี 2020 เพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันดิบตก รักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันโลก ก่อนอื่น ท่าทีนี้ได้ยุติสงครามราคาน้ำมันที่รุนแรงระหว่างรัสเซียกับซาอุดิอาระเบียในเวลาที่ผ่านมา อีกทั้งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการร่วมมือระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หลังจากนั้น ประชามติโลกและตลาดน้ำมันโลกได้มีท่าทีที่น่ายินดี ยืนยันถึงแนวทางที่ถูกต้องของOPEC+ แต่อย่างไรก็ตาม การฟื้นฟูให้ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วยังคงเป็นเรื่องที่ไม่มีคำตอบ เพราะความต้องการน้ำมันในตลาดโลกกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
คำมั่นปรับลดปริมาณน้ำมันอย่างเข้มแข็งและสัญญาณตอบรับของตลาดน้ำมันดิบโลก
ตามแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ นอกจากข้อตกลงปรับลดปริมาณผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็นเวลา 2 เดือน OPEC + ยังมีแผนการปรับลดปริมาณผลิตน้ำมันเป็นเวลา 2 ปี จนถึงเดือนเมษายนปี 2022 และเร่งรัดให้ผู้ผลิตนอก OPEC เช่นสหรัฐ แคนาดา บราซิลและนอร์เวย์ปรับลดปริมาณผลิตน้ำมันดิบเพิ่มอีกร้อยละ 5 หรือประมาณ 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่ซาอุดิอาระเบียเผยว่า ปริมาณน้ำมันดิบที่ปรับลดของ OPEC + อาจสูงถึง 12.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากปริมาณน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือ UAE และคูเวตได้เพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2020 ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นประเทศผลิตและส่งออกน้ำมันชั้นนำของโลกได้ผลิตน้ำมัน 12.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงกว่า 11 ล้านบาร์เรลต่อวันที่ประเทศนี้ได้เสนอในข้อตกลงปรับลดปริมาณใหม่ของ OPEC + ซึ่งหมายความว่า ปริมาณปรับลดที่ประเทศนี้ปฏิบัติในทางเป็นจริงจะอยู่ที่เกือบ 3.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
จากความคืบหน้านี้ ตลาดน้ำมันโลกได้มีการตอบรับที่น่ายินดีทันที โดยหลังจากบรรลุข้อตกลงเป็นเวลา 1 วัน ราคาน้ำมัน WTI ของสหรัฐได้ปรับขึ้นร้อยละ 6.1 อยู่ที่ 24.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในขณะที่ราคาน้ำมันเบรนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 อยู่ที่ 32.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล บรรดาผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้พยากรณ์ว่า ราคาน้ำมันอาจอยู่ในระดับนี้และจะมีการปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
ราคาน้ำมันดิบยังไม่สามารถฟื้นฟูอยู่ในระดับสูง
ถึงกระนั้น บรรดาผู้เชี่ยวชาญยังคงแสดงความเห็นว่า ราคาน้ำมันดิบยากที่จะกลับไปอยู่ใน ระดับสูง หรือสูงกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเพราะหลายเหตุผล โดยสาเหตุหลักคือความต้องการเชื้อเพลิงในตลาดโลกได้ลดลงเกือบ 30 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือคิดเป็นร้อยละ 30 ของแหล่งจัดสรรของโลกเนื่องจากผลกระทบจากมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดังนั้น ถึงแม้ OPEC + ได้บรรลุความเห็นพ้องปรับลดการผลิตน้ำมัน 15 ล้านบาร์เรลต่อวันในทางเป็นจริง แหล่งจัดสรรยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าความต้องการทำให้การเพิ่มราคาน้ำมันอย่างรวดเร็ว ทำได้ยาก นอกจากนั้น ต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงอื่นซึ่งอาจทำให้แหล่งจัดสรรน้ำมัน ในโลกเพิ่มขึ้น เพราะยังมีผู้ผลิตหลายรายไม่ได้เข้าร่วมข้อตกลงของ OPEC + นอกจากนั้น ต้องกล่าวถึงความเสี่ยงทำลายคำมั่นปรับลดปริมาณผลิตน้ำมันของประเทศต่างๆที่เข้าร่วมข้อตกลง โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่โลกกำลังมีความผันผวนอย่างซับซ้อนในปัจจุบัน
ถึงแม้ต้องเผชิญกับความท้าทายและความเสี่ยง แต่ต้องยืนยันว่า ข้อตกลงปรับลดราคาน้ำมันที่เพิ่งบรรลุคือความคืบหน้าที่สำคัญต่อความพยายามรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันโลก โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่โรคโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างรุนแรงและการแข่งขันในตลาดน้ำมันโลกยังได้รับการประเมินว่า มีความดุเดือดมาก./.
Bá Thi