จากการมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตหลายพันคนเมื่อปี 1997 ปัจจุบัน ตัวเลขนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 68.72 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ70.3 ของประชากรทั้งหมด (Báo Thái Bình)

เมื่อปี 1991 ศ. Rob Hurle จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียและนาย เจิ่นบ๊าท้าย เจ้าหน้าที่สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศในกรุงฮานอยได้ทำการทดสอบการเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์ออสเตรเลียกับเวียดนามผ่านทางสายโทรศัพท์ ต่อมา เมื่อปี 1994 สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศในกรุงฮานอยและบริษัท NetNam ได้เปิดให้บริการอินเตอร์เน็ตเป็นครั้งแรกในเวียดนาม โดยให้บริการอีเมลภายใต้ชื่อโดเมน .vn

นิมิตหมายที่สำคัญต่างๆ

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนปี 1997 เวียดนามได้เปิดใช้งานระบบอินเตอร์เน็ตอย่างเป็นทางการ โดยบริษัท VNPT และบริษัท Netnam เป็นบริษัทกลุ่มแรกที่ให้บริการในด้านนี้ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์บ้าน

สมาคมอินเตอร์เน็ตเวียดนามได้เผยว่า การเปิดใช้งานบรอดแบนด์ ADSL หรือ MegaVNN เมื่อปี 2003 ถือเป็นพัฒนาการแบบก้าวกระโดด ซึ่งเอื้อให้แก่การรับส่งข้อมูลความเร็วสูงและการบริการอื่นๆ เช่น โทรศัพท์และโทรสาร ต่อมา เมื่อปี 2009 ได้มีการเปิดให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงและในปีเดียวกัน บริษัท VinaPhone ได้เปิดใช้งานระบบ 3G ซึ่งเปิดระยะใหม่ของบริการอินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่ายมือถือและเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีบรอดแบนด์บนมือถือในเวียดนาม

ตั้งแต่ปี 2010 จนถึงปัจจุบัน ระบบอินเตอร์เน็ตได้พัฒนาอย่างรวดเร็วโดยมีการใช้ระบบอินเทอร์เน็ตใยแก้วนำแสงและการพัฒนาสมาร์ทโฟนทำให้แนวโน้มการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้น ที่น่าสนใจคือในช่วงปี 2016- 2017 สถานประกอบการต่างๆได้เปิดให้บริการระบบ 4G ทำให้เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ในโลกที่พัฒนาระบบ4G

พื้นฐานให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัล

จากการมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตหลายพันคนหลังจากเวียดนามเปิดใช้งานระบบอินเตอร์เน็ตอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1997 ปัจจุบัน ตัวเลขนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 68.72 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ70.3 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งอินเตอร์เน็ตได้เข้าถึงเขตชนบท เขตตัวเมือง เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำ เขตเขา เขตชายแดน ทะเลและเกาะแก่ง มีการนำอินเตอร์เน็ตมาใช้ร่วมกับด้านต่าง ๆ ทั้งการศึกษา สาธารณสุข คมนาคมและการสร้างสรรค์รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์จนกลายเป็นเรื่องปรกติในชีวิตประจำวันของประชาชนเวียดนามส่วนใหญ่ นาย หวูหว่างเลียน ประธานสมาคมอินเตอร์เน็ตเวียดนาม ได้ย้ำว่า

“ปัจจุบัน เวียดนามเป็นหนึ่งใน 20 ประเทศที่มีการใช้อินเตอร์เน็ตมากที่สุด ซึ่งระบบอินเตอร์เน็ตเป็นหนึ่งในระบบนิเวศของการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลในโลกและเป็นด้านที่รัฐบาลเน้นพัฒนาเพื่อปฏิบัติเป้าหมายการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลของเวียดนาม”

ในการพัฒนาระบบอินเตอร์เน็ต เวียดนามได้ดำเนินการพร้อมๆกับประเทศที่พัฒนา ประสบความสำเร็จในการก้าวไปสู่กลไกรุ่นใหม่อินเทอร์เน็ตโพรโตคอลเวอร์ชัน 6ที่มีผู้ใช้งานมากถึงร้อยละ 50 และอยู่อันดับที่ 10 ของโลก ซึ่งระบบอินเตอร์เน็ตในเวียดนามจะพัฒนาอย่างเข้มแข็งมากขึ้นในอนาคต สร้างโครงสร้างพื้นฐานให้แก่การพัฒนาสังคมดิจิทัลที่ทันสมัย ปลอดภัยและมีมนุษยธรรม สำหรับเสาหลักแห่งสังคมดิจิทัล นาย เหงวียนจ่องเดื่อง รองอธิบดีกรมเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ สังกัดกระทรวงการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ ได้เผยว่า

“ตามรายงานขององค์การ GSMA Inteligent เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ต้องประเมินการพัฒนาสังคมดิจิทัลตาม 5 เสาหลัก ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน ระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล พลเมืองดิจิทัล วิถีชีวิตในยุคดิจิทัลและการค้าดิจิทัล ซึ่งเวียดนามได้รับการประเมินว่า มีการปรับขึ้น 12 คะแนนจากทั้งหมด 100 คะแนนในปี 2020 แต่ยังอยู่ในระดับปานกลางของภูมิภาค รองจากอินโดนีเซีย ไทย มาเลเซียและสิงคโปร์”

จากการมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนร้อยละ 72 ของประชากรทั้งหมด เวียดนามได้รับการประเมินว่า เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลได้ค่อนข้างรวดเร็วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในปี 2021 มีมูลค่ารวม 2 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 31 เมื่อเทียบกับปี 2020 มีส่วนร่วมคิดเป็นกว่าร้อยละ 5 ของจีดีพี ส่วนรายงาน e-Conomy SEA ประจำปี 2021ของ Google, Temasek และ Bain & Company ที่ประกาศเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2021 ระบุว่า เศรษฐกิจอินเตอร์เน็ตของเวียดนามจะอยู่อันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมมูลค่า 2 แสน 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030

ในโครงการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลระดับชาติจนถึงปี 2025 วิสัยทัศน์จนถึงปี 2030 ระบุว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลต้องดำเนินการพร้อมๆกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และระบบ 5 G ซึ่งเพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืนและค้ำประกันความปลอดภัยของระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบอินเตอร์เน็ตภายในประเทศต้องเป็นด้านที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ โดยเวียดนามได้มีแผนขยายการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตในภูมิภาคและโลก โดยเฉพาะพัฒนาระบบสายเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้ทะเลเพื่อนำเวียดนามพัฒนาเป็นหนึ่งในศูนย์กลางระดับภูมิภาค ส่วนการก้าวไปสู่กลไกอินเทอร์เน็ตโพรโตคอลเวอร์ชัน 6 ก็ช่วยให้เวียดนามผสมผสานเข้ากับโลกไซเบอร์ได้อย่างเข้มแข็งมากขึ้น.