(VOVWORLD) - ฐานข้อมูลคือปัจจัยที่สำคัญของการพัฒนาด้านดิจิทัล ซึ่งหน่วยงานศึกษาและฝึกอบรมกำลังพยายามสร้างฐานข้อมูลให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ อีกทั้งผลักดันการใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆอย่างกว้างขวางในทั่วประเทศเพื่อมีส่วนร่วมยกระดับประสิทธิภาพของการเรียนการสอน
นาย หว่างมิงเซิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาและฝึกอบรม (Moet)
|
ในปีนี้ กระทรวงศึกษาและฝึกอบรมได้สร้างระบบฐานข้อมูลสำหรับโรงเรียนอนุบาลจนถึงโรงเรียนมัธยมศึกษา 5 หมื่น 3 พันแห่ง รวมนักเรียน ครู พนักงานและเจ้าหน้าที่เกือบ 26 ล้านคน อีกทั้งจัดทำมาตรฐานด้านดิจิทัลสำหรับนักเรียน นักศึกษาและครู นาย หว่างมิงเซิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาและฝึกอบรม ได้เผยว่า
“ต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนการสอนในยุคดิจิทัลอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ มิใช่แค่การเรียนการสอนแบบออนไลน์ ส่วนสำหรับการบริหารโรงเรียน ทางกระทรวงฯได้สร้างระบบฐานข้อมูลเพื่อเชื่อมโยงโรงเรียนต่างๆ อีกทั้งแนะนำให้ทางโรงเรียนและหน่วยงานการศึกษาใช้ฐานข้อมูลในการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ”
ระบบฐานข้อมูลตามที่อยู่ https://csdl.moet.gov.vn ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในหน่วยงานการศึกษา โดยนอกจากแอพพลิเคชั่นของกระทรวงศึกษาและฝึกอบรมแล้ว สำนักงานการศึกษาและฝึกอบรมระดับท้องถิ่นยังใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อเชื่อมโยงกับระบบฐานข้อมูลในการบริหารกิจกรรมต่างๆ นาง เจืองถิกวี๊ฮวา ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นวันเดี๊ยน กรุงฮานอย ได้เผยว่า
“การใช้แอพพลิเคชั่น eNetViet ทำให้การจัดการเรียนการสอนสะดวกมากขึ้น รวมถึงการอัพเดทจำนวนผู้ติดเชื้อและการฉีดวัคซีนในนักเรียนและครูในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19”
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการเรียนการสอนช่วยให้นักเรียนจำบทเรียนได้ง่ายขึ้น โดยนักเรียนสามารถค้นหาข้อมูล เรียนภาษาอังกฤษและวิชาต่างๆผ่านทางอินเตอร์เน็ตและมีการติดตั้งโปรเจคเตอร์ในห้องเรียนต่างๆเพื่อสนับสนุนการเรียนการสอน คุณ เหงวียนเฟืองลิง นักเรียนจากโรงเรียนมัธยมศึกษาเหงวียนเติ๊ตแถ่งในกรุงฮานอยได้เผยว่า
“การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและแอพพลิเคชั่นต่างๆช่วยให้พวกหนูสามารถจำบทเรียนได้ง่ายขึ้น”
นอกจากนี้ การที่โรงเรียนต่างๆผลักดันการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัลในการเรียนการสอนยังช่วยสร้างการเชื่อมโยงระหว่างนักเรียนกับครูและช่วยให้นักเรียนสามารถทำการบ้านได้อย่างสะดวกมากขึ้น คุณครู เหงวียนเกิ๋มลาน จากโรงเรียนประถมศึกษายาหว่า จังหวัดหายเยือง ได้เผยว่า
“พวกเราใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆเพื่อช่วยให้นักเรียนอ่านและทบทวนบทเรียนได้อย่างสะดวก”
นอกจากนี้ ครูสามารถเข้าใจการพัฒนาทักษะและความคิดเห็นของนักเรียนเพื่อปรับปรุงบทเรียนให้เหมาะสม คุณครู เหงวียนถิเฟือง จากโรงเรียนมัธยมศึกษาเหงวียนเติ๊ตแถ่ง ได้เผยว่า
“การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้ครูติดตามความคืบหน้าและเข้าใจความคิดและความรู้สึกของนักเรียนแต่ละคนเพื่อปรับปรุงบทเรียนและจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสม”
ทั้งนี้ การพัฒนาด้านดิจิทัลช่วยพัฒนาวิธีการเรียนการสอนเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับนักเรียนแต่ละคน อีกทั้งยกระดับประสิทธิภาพการบริหารภาครัฐในด้านการศึกษาและฝึกอบรม