ช่างศิลป์โด๋เวียดหยุง

“พิณเหงวียดนี้เท่าไหร่คะ

  พิณเหงวียดสำหรับศิลปินมืออาชีพราคา3-4ล้านด่ง ส่วนพิณเหงวียดธรรมดาราคา5แสนด่ง”

  “ดิฉันรู้จักโรงผลิตเครื่องดนตรีแทงเกิ่มผ่านการแนะนำของคุณครูในโรงเรียนดนตรี  ปัจจุบัน ดิฉันกำลังเรียนวิชาพิณเหงวียด  ดังนั้นจึงอยากซื้อพิณเหงวียดเพื่อใช้ในการเรียน”

โรงผลิตเครื่องดนตรีแทงเกิ่มของครอบครัวช่างศิลป์ โด๋เวียดหยุง มีพื้นที่60ตารางเมตรอยู่ในซอยเล็กๆบนนถนนห่าวนามได้กลายเป็นจุดหมายของผู้ที่เล่นดนตรีในทั่วประเทศ  ในตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาเพราะนอกจากมีชื่อเสียงด้านการผลิตเครื่องดนตรีที่ดีเยี่ยมเท่านั้นหากยังรวมถึงความเป็นมิตรของเจ้าของโรงผลิตอีกด้วย

ช่างศิลป์ โด๋เวียดหยุง อายุ๔๕ปี มีหน้าผากกว้างพร้อมใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส มีประสบการณ์ทำเครื่องดนตรีพื้นเมืองยาวนานกว่า๒๐ปี  เขาเกิดในครอบครัวที่มีคน๔รุ่นทำเครื่องดนตรีพื้นเมือง ดังนั้นตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก นาย โด๋เวียดหยุงได้เริ่มรู้จักและหลงไหลกับอาชีพนี้ของครอบครัว  โดยหลังเวลาเรียน นาย หยุงชอบนั่งข้างๆพ่อแม่เพื่อศึกษาวิธีการทำเครื่องดนตรีแทนที่จะออกไปเล่นข้างนอกเหมือนคนอื่นๆ “ตอนผมเป็นเด็ก  เมื่อเห็นพ่อแม่ทำงาน ผมก็ชอบนั่งดู  พ่อแม่เห็นถึงความตั้งใจของผมจึงสอนขั้นตอนต่างๆในการทำพิณ  ตั้งแต่ผมอายุ๕-๖ขวบก็รู้ว่า การทำพิณมีกี่ขั้นตอน  ในครอบครัวของเรา พี่ๆก็ทำแต่ไม่ชอบ มีผมคนเดียวที่ยังคงประกอบอาชีพนี้อยู่”

ช่างศิลป์โด๋เวียดหยุงกับพิณที่เขาทำในโอกาสฉลองครบรอบ65ปีการจัดตั้งโรงผลิตเครื่องดนตรีแทงเกิ่ม

ด้วยความตั้งใจ นาย หยุงได้เรียนรู้วิธีและเคล็ดลับในการทำเครื่องดนตรีจากคุณพ่อคือท่าน โด๋ วันเทือก ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ช่างศิลป์ทำเครื่องดนตรีพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดของเวียดนาม ตั้งแต่การเลือกพันธุ์ไม้ การปาดโครงพิณ เป็นต้น สำหรับนาย หยุง พิณแต่ละตัวก็เหมือนจิตวิญญาณที่ต้องทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจในการทำ  โดยพิณสำหรับศิลปินมืออาชีพต้องใช้เวลาทำนาน 2-3 เดือน นาย หยุงเผยว่า ช่างศิลป์ที่ทำเครื่องดนตรีเก่งไม่เพียงแต่มีความเข้าใจทุกขั้นตอนในการทำเท่านั้นหากยังต้องมีประสบการณ์ในการเลือกวัสดุ “การทำพิณส่วนใหญ่ก็ทำตามแบบที่มีอยู่แล้ว  ถ้าหากช่างศิลป์คนใดอยากทำพิณที่มีเอกลักษณ์พิเศษก็ต้องทำการออกแบบเอง  ในระหว่างการทำ ช่างศิลป์ที่เก่งต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับวัสดุที่นำมาใช้ทำพิณ ตัวกะโหลกของพิณพื้นเมืองส่วนใหญ่ทำจากไม้หวูโถง (Firmiana) โดยแต่ละส่วนของไม้มีความแตกต่างกัน ถ้าแผ่นไม้บางเกินไปก็ต้องเสริมให้หนาขึ้น”

ซึ่งหากใครได้เห็นการที่นาย โด๋เวียดหยุงถือพิณแต่ละตัวถึงจะเข้าใจได้ว่า นาย หยุงรักมันมากแค่ใหน ซึ่งพิณที่สร้างความประทับใจมากที่สุดให้แก่นาย หยุงคือพิณเหงวียดตัวแรกที่เขาทำเมื่ออายุ๒๕ปี “พิณอันแรกที่ผมทำคือตอนผมสอนวิธีทำพิณให้แก่นักเรียนชาวเบลเยี่ยมที่มาเวียดนามเพื่อเรียนเกี่ยวกับเครื่องดนตรีพื้นเมืองของเวียดนาม  หลังจากนั้น เมื่อปี๒๐๐๓ ผมได้ทำพิณพื้นเมืองเพิ่มอีกหลายตัวให้แก่บรรดาศิลปินของฮานอย  ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ลูกค้าจึงรู้จักแล้วมาหาผม  พ่อของผมดีใจมากๆเมื่อเห็นว่า ผมได้ประสบความสำเร็จในการสืบทอดอาชีพของบรรพบุรุษ”

นอกจากการทำพิณพื้นเมือแล้ว นาย โด๋เวียดหยุงยังร่วมมือกับศิลปินมืออาชีพเพื่อปรับปรุงพิณพื้นเมืองให้สามารถเล่นดนตรีสมัยใหม่เช่น พิณเหงวียด๒คันทวนและ๓คันทวนของศิลปิน เหงวียนหึวเหิวและพิณสายเดียวของศิลปินดึ๊กแถ่ง  จากความทุ่มเทให้กับอาชีพพื้นเมือง นาย โด๋เวียดหยุง ยังมีความประสงค์ที่จะพัฒนาอาชีพนี้ไม่เพียงแต่ในเวียดนามเท่านั้นหากยังแนะนำให้แก่เพื่อนมิตรชาวต่างชาติอีกด้วย  เมื่อปี๒๐๐๑ นาย หยุงได้เปิดตัวเว็บไซต์www.thanhcammusic.comเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อจัดสรรข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องดนตรีพื้นเมืองของเวียดนาม ผ่านเว็บไซต์นี้ จำนวนลูกค้าต่างชาติ รวมทั้ง นักวิจัยชาวต่างชาติที่รู้จักโรงผลิตเครื่องดนตรีแทงเกิ่มนับวันเพิ่มมากขึ้น  ศิลปินดีเด่น เหงวียนหึวเหิวได้ประเมินเกี่ยวกับฝีมือของนาย หยุงว่า “ผมมาซื้อพิณที่โรงผลิตเครื่องดนตรีแทงเกิ่มตั้งแต่ผมเรียนที่โรงเรียนดนตรีฮานอย  ตอนแรกผมซื้อพิณของคุณพ่อคือท่าน โด๋เวียดเทือกแต่ปัจจุบันนี้ ผมมักจะซื้อพิณที่นาย หยุงทำเนื่องจากมีคุณภาพดี ผมได้ร่วมมือกับนาย หยุงทำพิณเหงวียดสองคันทวน”

ช่างศิลป์โด๋เวียดหยุงกำลังวางแผนการร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยวต่างๆเพื่อจัดทัวร์ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเยือนโรงผลิตเครื่องดนตรีของตน  จากความสามารถด้านภาษาอังกฤษ นาย หยุงสามารถแนะนำให้ท่องเที่ยวชาวต่างชาติทราบเกี่ยวพิณพื้นเมืองของเวียดนามและอาชีพการทำพิณพื้นเมืองของเวียดนาม ซึ่งนับว่า ได้มีส่วนร่วมไม่น้อยในการสานต่อและพัฒนาอาชีพทำพิณพื้นเมืองของเวียดนาม.