บริษัทรังนกนางแอ่นแค้งหว่าเป็นหนึ่งในบริษัทแรกที่ได้รับใบอนุญาตส่งออกไปยังตลาดจีน (nhandan.vn)

เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2023 กระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนามได้เจรจากับทบวงศุลกากรจีนเกี่ยวกับพิธีสารการส่งออกรังนกนางแอ่นอย่างเป็นทางการไปยังตลาดจีน โดยบริษัทรังนกนางแอ่นแค้งหว่า(บริษัทเอี๊ยนส่าวแค้งหว่า)เป็นหนึ่งในบริษัทแรกที่ได้รับใบอนุญาตส่งออกไปยังตลาดจีน ควบคู่กันนั้น ทางบริษัทก็ให้ความสนใจถึงการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ โดยเฉพาะตลาดที่มีมาตรฐานอย่างเข้มงวด เช่น สหรัฐ ออสเตรเลียและแคนาดา เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัทรังนกนางแอ่นแค้งหว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้บริโภคเนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งผลิตภัณฑ์มีจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่น่าสนใจคือ ผลิตภัณฑ์รังนกนางแอ่นแค้งหว่าได้รับการประเมินว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับโลก โดยรับรางวัลเครื่องหมายการค้าแห่งชาติ 3 ครั้งติดต่อกันและได้รับการโหวตจากผู้บริโภคเวียดนามให้เป็นสินค้าเวียดนามคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่องถึง 20 ปี และยังได้ครองสถิติแห่งเอเชียด้านการเป็นสินค้าประจำถิ่นที่ได้รับความนิยมซื้อเป็นของฝากของจังหวัดแค้งหว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์รักนกของบริษัทได้วางจำหน่ายในเกือบ30ประเทศและดินแดนรวมทั้งยังได้จดลิขสิทธิ์แบรนด์สินค้าในหลายประเทศ นาง จิ่งถิห่งเวิน ประธานกรรมการบริษัทเอี๊ยนส่าวแค้งหว่าจำกัด เผยว่า

“สำหรับตลาดที่มีมาตรฐานเข้มงวด เช่น สหรัฐ ออสเตรเลียและแคนาดา เราก็สามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ โดยเฉพาะที่ตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ผู้บริโภคมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์รังนก จึงมีมาตรฐานที่แตกต่างกับประเทศยุโรปและสหรัฐ แต่จากความช่วยเหลือของกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ บวกกับการมีขั้นตอนการผลิตที่ค้ำประกันด้านคุณภาพ ทางบริษัทของเรายังคงสามารถตอบสนองข้อกำหนดต่าง ๆ เพื่อส่งออกไปยังตลาดจีนอย่างเป็นทางการ”

นาง จิ่งถิห่งเวิน ประธานกรรมการบริษัทเอี๊ยนส่าวแค้งหว่าจำกัด (sggp.org.vn)

ผลสำเร็จนี้ได้ช่วยให้ทางบริษัทมีตลาดส่งออกที่กว้างใหญ่และมีศัยภาพสูง ซึ่งสร้างรายได้ในระดับสูงให้แก่บริษัท ในปี 2024 ผลิตภัณฑ์น้ำดื่มรังนก  Sannest สามารถส่งออกไปยังตลาดใหม่ๆ เช่น สาธารณรัฐเช็ก อังกฤษ ไทยและนิวซีแลนด์ ควบคู่กับการธำรงการส่งออกไปยังตลาดเก่าแก่ เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐ แคนาดา ออสเตรเลีย ไต้หวัน- ประเทศจีน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์และฮ่องกง – ประเทศจีน  

เพื่อสามารถเจาะตลาดต่างประเทศ ทางบริษัทได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างยั่งยืนคือ เน้นผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าต่อสุขภาพและให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพ นาง ฟานถิยาง รองผู้จัดการบริษัทหุ้นส่วน NGK เอี๊ยนส่าวแค้งหว่า ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทเอี๊ยนส่าวแค้งหว่า กล่าวว่า

“เรามีผลิตภัณฑ์กว่า 20 ชนิดที่ใช้เครื่องหมายการค้า Sannest และ Sanvinet ซึ่งถือเป็นผลการวิจัยและประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ของบริษัท ในเวลาที่จะถึง เราจะลงทุนมากขึ้นเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และทำโครงการระดับจังหวัดและประเทศเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์รังนกนางแอ่น”

ควบคู่กันนั้น ทางบริษัทก็ให้ความสนใจถึงการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีเพื่อสร้างก้าวกระโดดในด้านคุณภาพและค้ำประกันความปลอดภัยด้านอาหาร โดยทุกขั้นตอนการผลิตต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การใช้วัตถุดิบไปจนถึงการจำหน่าย  นอกจากนั้น ทางบริษัทก็ได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จากสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่นเป็นต้นเพื่อตอบสนองงานวิจัยผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ นาง ท้ายบ๋าวเจิน รองผู้จัดการดูแลโรงงานแปรรูปวัตถุดิบรังนกนางแอ่นเผยว่า

“หลังจากเก็บรังนกธรรมชาติ เราก็นำไปแปรรูปตามขั้นตอนเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง นอกจากนั้น ทางบริษัทยังร่วมทุน ร่วมมือและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเลี้ยงนกนางแอ่นภายใต้เครื่องหมายการค้า Sanvinest กับธุรกิจครัวเรือนด้วย”

ในหลายปีมานี้ บริษัทเอี๊ยนส่าวแค้งหว่ากำลังทำการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและการปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียวอย่างเข้มแข็งเพื่อตอบสนองมาตรฐานของตลาดต่างๆ พร้อมทั้งผลักดันการจำหน่ายสินค้าผ่านทางอี – คอมเมิร์ซ ประชาสัมพันธ์เครื่องหมายการค้าผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คและแอพพลิเคชั่นทางมือถือเพื่อดึงดูดผู้บริโภคมากขึ้น นอกจากนี้ ทางบริษัทยังคงปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงใหม่การออกแบบ บรรจุภัณฑ์และใช้รหัส QR เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถดูแหล่งที่มาของสินค้าได้

ในตลอดกว่า 30 ปีแห่งการคงอยู่และพัฒนา บริษัทเอี๊ยนส่าวแค้งหว่าได้มีส่วนร่วมต่อมูลค่าการค้าของหน่วยงานการเกษตร ป่าไม้และสัตว์น้ำเวียดนามเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นแบบอย่างแห่งความสำเร็จในการเจาะตลาดต่างประเทศและในเวลาที่จะถึง ทางบริษัทตั้งเป้าไว้ว่า จะกลายเป็นสถานประกอบการชั้นนำของประเทศในการผลิตรังนกนางแอ่นต่อไป ผลักดันการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 4.0 ในกระบวนการบริหาร การผลิตและประกอบธุรกิจ พยายามขยายชื่อเสียงแบรนด์สินค้าในทั่วโลก เพิ่มส่วนแบ่งในกลุ่มตลาดที่มีรายได้สูงในเอเชีย ทวีปอเมริกาและกลุ่มตลาดเก่าแก่ที่มีศักยภาพสูง.