วีรชน ลาวันเก่า พลเมืองฮานอยดีเด่นประจำปี 2019

วีรชนกองกำลังติดอาวุธประชาชน ลาวันเก่า ชื่อจริงคือ เสิ่มฟุ๊กเฮื้อง เกิดเมื่อปี 1931 เป็นชนกลุ่มน้อยเผ่าไตในจังหวัดกาวบั่ง เขาได้รับเหรียญอิสริยาภรณ์สำหรับทหารชั้น 2 และชั้น 3 และเหรียญอิสริยาภรณ์แห่งสงครามกู้ชาติชั้น 1 วีรชนลาวันเก่าสมัครเข้าเป็นทหารของกองทัพประชาชนเวียดนามตอนอายุ 17 ปีและได้สร้างผลงานที่ดีเด่นจนกลายเป็นเเบบอย่างในการต่อสู้ที่วีรกล้าหาญในช่วงสงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศส โดยเฉพาะในการต่อสู้ที่ดงเคในยุทธนาการชายแดนช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวปี 1950 แม้จะโดนยิงจนแขนข้างหนึ่งบาดเจ็บสาหัสแต่เขาได้ขอเพื่อนร่วมรบตัดแขนนั้นเพื่อสามารถทำการต่อสู้ต่อไปทั้งที่ต้องทนกับความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก พันเอก ลาวันเก่า เล่าว่า “ประธานโฮจิมินห์และพลเอกหวอเงวียนย้าปเป็นผู้ชี้นำการต่อสู้ที่ดงเคโดยตรงเพื่อเป็นการเปิดยุทธนาการชายแดนช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวปี 1950 ดงเคคือจุดยุทธศาสตร์ระหว่างจังหวัดกาวบั่งกับจังหวัดหลางเซินศัตรูจึงได้วางกำลังจำนวนมากพร้อมอาวุธที่ทันสมัย ประธานโฮจิมินห์ได้ส่งจดหมายให้กำลังใจทหารพวกเราโดยบอกว่า ยุทธนาการครั้งนี้มีความหมายสำคัญมากดังนั้นต้องชนะ ส่วนผมเป็นหัวหน้าหน่วยวางระเบิดที่มีสมาชิก 25 คนจากจำนวนหน่วยวางระเบิดทั้งหมด 5 หน่วย เรารับหน้าที่วางระเบิดป้อมปราการของของฝ่ายศัตรู การต่อสู้ครั้งประวัติศาสตร์ดงเคได้มีขึ้นในวันที่ 16 กันยายนปี 1950”

ในการสรุปยุทธนาการชายแดนช่วงฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาวปี 1950 พลเอก หวอเงวียนย้าปได้ยกย่องชื่นชมนายทหารรุ่นใหม่ลาวันเก่าว่าเป็น “ผู้เดินหน้าในขบวนการต่อสู้ศัตรูผู้รุกราน” ลาวันเก่ายังเป็นหนึ่งในกลุ่มทหารไม่กี่นายที่ได้เข้าพบประธานโฮจิมินห์ที่เขตปลอดภัยเหวียดบั๊ก และถึงปี 1952 ในงานสดุดีวีรชนและนายทหารที่ดีเด่นในขบวนการแข่งขันรักชาติครั้งแรกทั่วประเทศ ลาวันเก่าได้รับประกาศเกียรติคุณเป็น “วีรชนกองกำลังติดอาวุธประชาชน” ซึ่งสำหรับชาวเวียดนามหลายรุ่น พันเอกและวีรชนกองกำลังติดอาวุธประชาชน ลาวันเก่า ได้กลายเป็นตำนานแห่งความกล้าหาญในการต่อสู้ คุณ เหงียนเหวะชี ชาวฮานอยได้กล่าวด้วยความตื้นตันใจว่า “ตอนเป็นเด็ก ฉันได้เรียนเกี่ยวกับวีรชน ลาวันเก่า ในหนังสือตำราเรียนแล้วและเห็นว่าท่านปเป็นนักรบที่กล้าหาญมาก ตอนถูกยิงที่แขนเขาไม่กลัวไม่ท้อแถมยังขอให้เพื่อนร่วมรบตัดแขนที่บาดเจ็บให้เพื่อที่จะสามารถต่อสู้ต่อไป พันเอก ลาวันเก่า ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 พลเมืองฮานอยดีเด่นในปี 2019 ซึ่งท่านเป็นทหารคนเดียวที่ได้รับประกาศเกียรติคุณนี้ เขาเป็นตัวอย่างดีเด่นให้พวกเราปฏิบัติตาม”

ตั้งแต่ปี 1983 พันเอก ลาวันเก่า ได้ย้ายมาอาศัยในกรุงฮานอยและทำงานที่ทบวงการเมือง ต่อจากนั้นก็ย้ายมาทำงานที่พิพิธภัณฑ์กองทัพ ท่านเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนาม ถึงปี 1996 ท่านได้เกษียณอายุราชการแต่ยังคงอาศัยอยู่ที่แขวงกวางจุง เขตด๊งดา กรุงฮานอยและยังเป็นตัวอย่างในการส่งเสริมบุคลิกภาพของทหารลุงโฮต่อไป พันเอก ลาวันเก่า เล่าว่า “ผมตระหนักว่าตัวเองเป็นนักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมโดยร่วมเก็บกวาดขยะบนถนนเพื่อช่วยให้กรุงฮานอยสะอาดและสวยงาม ผมตื่นตอนตี 5 แล้วไปเก็บกวาดขยะในบริเวณซอยที่บ้านผม ความสุขที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของผมคือได้เป็นทหารลุงโฮ ซึ่งไม่ว่างานอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนผมก็พร้อมทำและจะทำทุกวัน”

แม้ยังมีชีวิตอยู่แต่ชื่อของท่านได้ถูกใช้เพื่อตั้งเป็นชื่อโรงเรียนและถนนในกรุงฮานอยและในท้องถิ่นหลายแห่งทั่วประเทศ เช่น ที่นครหวุงเต่า นครนามดิ่งและจังหวัดหายเยือง สงครามได้ผ่านพ้นไปแต่เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับวีรชนกองกำลังติดอาวุธประชาชน ลาวันเก่า ยังคงเป็นแบบอย่างในใจคนเวียดนาม เป็นตัวอย่างของความมุ่งมั่น ของจิตใจแห่งการต่อสู้อย่างกล้าหาญของทหารลุงโฮ.