นาย ฟานแทงหาย ผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรมและการกีฬาจังหวัดเถื่อเทียนเว้ (http://www.cucdienanh.vn/)

เวียดนามได้ถูกเลือกเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่อง เช่น ภาพยนตร์เรื่อง “Indochine” “The Quiet American” “The Lover” “The Chinese botanist's daughters” โดยเฉพาะภาพยนตร์เรื่อง “Kong: Skull Island” ที่มีฉากที่ถ่ายทำบริเวณอ่าวฮาลอง จังหวัดกว๋างนิง ถ้ำตู๊หล่านและฟองญา จังหวัดกว๋างบิ่ง เขตนิเวศวิทยาจ่างอาน เวินลองและตามก๊กในจังหวัดนิงบิ่งห์ ซึ่งทำให้ประชาชนเวียดนามรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจเมื่อได้เห็นสถานที่ต่าง ๆ ของเวียดนามในภาพยนตร์ฮอลลีวูด  ส่วนนักแสดงฮอลลีวูด อย่างเช่น ทอม ฮิดเดิลสัน บรี ลาร์สัน ซามูเอล ลีรอย แจ็กสัน และผู้กำกับ จอร์แดน ชาร์ลส์ วอกต์-โรเบิร์ตส์ได้โพสต์ข้อความและภาพเกี่ยวกับประเทศเวียดนามบนสื่อสังคมออนไลน์ในช่วงที่ถ่ายทำภาพยนตร์ในเวียดนาม โดยบอกว่า รักและชื่นชอบทัศนียภาพและผู้คนที่นี่ ผู้กำกับ จอร์แดน ชาร์ลส์ วอกต์-โรเบิร์ตส์ได้เผยว่า

“ฉากทั้งหมดเป็นฉากที่ถ่ายทำในสถานที่จริง ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมและหวังว่า จากการดูหนัง ผู้ชมจะศึกษาค้นคว้าและชื่นชอบทัศนียภาพที่สวยงาม รวมถึงวัฒนธรรม อาหารและคนเวียดนามเหมือนผมและมีความประสงค์ที่จะมาเที่ยวเวียดนามเพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติ ลิ้มลองอาหารที่อร่อย สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและประชาชนที่เป็นมิตร”

ซึ่งกระแสของภาพยนตร์เรื่อง “Kong: Skull Island”ได้ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศหลายแสนคนให้มาเที่ยวเวียดนามและทำให้ภาพลักษณ์ประเทศ วัฒนธรรมและคนเวียดนามเป็นที่รู้จักมากขึ้นในทั่วโลก

ส่วนผลการสำรวจและรายงานของนิตยสารด้านการท่องเที่ยวและบริษัทนำเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกพบว่า นักท่องเที่ยวร้อยละ 7 ได้เผยว่า ได้วางแผนไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในภาพยนตร์ฮอลลีวูด  ซึ่งโรงถ่ายภาพยนตร์หลายแห่งได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาก ซึ่งในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก อุตสาหกรรมภาพยนตร์ได้ยกระดับบทบาทในการมีส่วนร่วมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ประเทศ คนและการท่องเที่ยวเวียดนามให้แก่เพื่อนมิตรชาวต่างชาติ  นาย ฟานแทงหาย ผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรมและการกีฬาจังหวัดเถื่อเทียนเว้ได้เผยว่า

“ในทางเป็นจริง ภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ถ่ายทำที่เมืองเว้ได้ช่วยประชาสัมพันธ์ได้ดีมาก ซึ่งมีส่วนร่วมที่สำคัญในการนำเมืองเว้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวของประเทศ โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองเว้เป็นจำนวนมาก  อย่างเช่น หลังจากภาพยนตร์เรื่อง “Indochine”ได้เข้าโรงฉายในทั่วโลกและได้รับรางวัลสูงๆจากงานเทศกาลภาพยนตร์ระหว่างประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวฝรั่งเศสที่เดินทางมาเที่ยวเมืองเว้ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับภาพยนตร์เวียดนามที่ถ่ายทำที่เมืองเว้เมื่อเร็วๆนี้ก็ได้รับความชื่นชอบของแฟนหนัง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ โดยมีการกดไลค์และกดแชร์บนเครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก”

นักแสดงและโปรดิวเซอร์ มายทูเหวี่ยน (http://www.cucdienanh.vn/)

ทั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่า กิจกรรมด้านวัฒนธรรมและศิลปะโดยเฉพาะ ภาพยนตร์มีส่วนร่วมไม่น้อยต่อการเชื่อมโยงและเผยแพร่คุณค่าวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ รวมถึงวัฒนธรรม ประเทศและคนเวียดนาม ซึ่งจากการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่า การประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมผ่านภาพยนตร์ต่างๆเป็นวิธีการประชาสัมพันธ์ที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพและกว้างขวาง ซึ่งกระแสของภาพยนตร์ต่างๆจะช่วยกระตุ้นการพัฒนาการท่องเที่ยว อีกทั้งมีส่วนร่วมประชาสัมพันธ์วัฒนธรรม คนและประเทศต่างๆ นักแสดงและโปรดิวเซอร์ มายทูเหวี่ยน ได้เผยว่า

“การหาโลเคชั่นได้ตามความต้องการ มักจะเป็นก้าวแรกที่ดีในการทำภาพยนตร์เสมอ ซึ่งนอกจากหาองค์ประกอบฉากที่ถูกใจผู้กำกับแล้ว เรามักจะหาสถานที่ที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม ประเทศเวียดนามมีมรดกธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ซึ่งเหมาะสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์และการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรม ซึ่งการที่ภาพยนตร์เวียดนามเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติและเข้าโรงฉายในต่างประเทศได้รับการชื่นชมของประชาชนประเทศต่างๆว่า ประเทศเวียดนามสวยมาก หรือ ผมอยากไปเที่ยวเวียดนามเป็นอย่างมาก”

ภายหลังการก่อตั้งและพัฒนาในตลอดกว่า 100 ปี อุตสาหกรรมภาพยนตร์เป็นหนึ่งในกลไกการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ สะท้อนเรื่องราวและกิจกรรมต่างๆ รวมถึงคุณค่าวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจ การเมืองและสังคมอย่างมีชีวิตชีวา อีกทั้งบรรยายถึงคุณค่ามรดกวัฒนธรรม ทัศนียภาพ ความงามทางธรรมชาติและอาหาร ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับประชาชนประเทศต่างๆในการศึกษาค้นคว้าสิ่งใหม่ๆและช่วยให้ผู้ชมมีความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศต่างๆมากขึ้น.