(VOVWorld) –  จากเป้าหมายไม่ปล่อยให้นักเรียนที่สอบติดมหาวิทยาลัยไม่มีเงินเรียน เมื่อเดือนกันยายนปี๒๐๐๗ นายกรัฐมนตรีได้ประกาศใช้มติเกี่ยวกับการปฏิบัติโครงการเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐที่จะปฏิบัติแนวทางการพัฒนาการศึกษา และรักษาสวัสดิการสังคม หลังจากที่ปฏิบัติมา๕ปี โครงการได้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจสังคม อีกทั้งผลักดันขบวนการฟันฝ่าความยากลำบากเพื่อการศึกษาในสังคม

มีครอบครัวที่ยากจนและเกือบยากจน๑.๙ล้านคนกำลังกู้เงินจากโครงการเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาเพื่อให้นักเรียนและนักศึกษากว่า๒.๓ล้านคนได้ศึกษาเล่าเรียน รวมยอดเงินกว่า๔๓ล้านล้านด่ง (Photo:Internet)

เมื่อก่อนนี้ มีครอบครัวที่ยากจนจำนวนมากรู้สึกมีความปลื้มปิติยินดีเมื่อได้รับใบแจ้งว่า บุตรหลานของตนสอบเอ็นทรานซ์ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนซึ่งนโยบายเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาของรัฐบาลที่ให้นักเรียนและนักศึกษากู้เงิน๑ล้านด่งต่อคนต่อเดือนได้ช่วยลดภาระเกี่ยวกับค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพให้แก่นักเรียนและนักศึกษาที่ยากจน นายNguyễn Duy Hải อยู่ที่ตำบล Tĩnh Gia จังหวัดThanh Hóa ที่มีบุตรกำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยในกรุงฮานอย และเป็นหนึ่งในครอบครัวแรกๆที่ได้กู้เงินจากโครงการเผยว่า เงินกู้จากโครงการนี้ได้ช่วยให้บุตรของเขามีโอกาสศึกษาต่อ“ครอบครัวผมมีบุตร๔คนซึ่งมี๒คนได้สำเร็จการศึกษาและทำงานแล้ว อีก๒คนกำลังศึกษา พวกเราได้กู้เงินจากธนาคารนโยบายสังคมสาขาTĩnh Gia จังหวัดThanh Hóa ตั้งแต่ปี๒๐๐๗ที่เบิกจ่ายเงิน๒ครั้งต่อปี เงินกู้นี้นำไปจ่ายค่าเล่าเรียน นอกจากนี้บุตร๒คนที่มีงานทำที่มั่นคงก็ให้ความช่วยเหลือพวกเราด้วย พวกเราชำระคืนเงินตรงตามกำหนด”

วัตถุประสงค์ของโครงการเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาคือเพื่อไม่ปล่อยให้นักเรียนและนักศึกษาต้องละทิ้งการเรียน(Photo:Internet)

หลังจากที่ปฏิบัติโครงการมา๕ปี มีนักเรียนและนักศึกษากว่า๓ล้านคนกู้เงิน และปัจจุบัน มีครอบครัวที่ยากจนและเกือบยากจน๑.๙ล้านคนกำลังกู้เงินจากโครงการนี้เพื่อให้นักเรียนและนักศึกษากว่า๒.๓ล้านคนได้ศึกษาเล่าเรียน รวมยอดเงินกว่า๔๓ล้านล้านด่ง ท่านTrần Quang Quí รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาและฝึกอบรมกล่าวว่า วัตถุประสงค์ของโครงการคือ ไม่ปล่อยให้นักเรียนและนักศึกษาต้องละทิ้งการเรียนเพราะไม่มีเงิน“รัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานต่างๆได้ให้ความช่วยเหลือเพื่อให้นักเรียนและนักศึกษาทุกคนไม่ต้องทิ้งการเรียนเนื่องจากไม่สามารถจ่ายค่าเล่าเรียนได้และเพื่อให้พวกเขามีงานทำมั่นคงในภายภาคหน้าซึ่งเป็นนโยบายที่ยิ่งใหญ่ มีความเป็นมนุษย์ที่ได้รับการชื่นชมจากประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะเจ้าหน้าที่บริหารกระทรวง ผมมีความประสงค์ว่า นักศึกษาทุกคนจะพยายามศึกษา ฝึกฝนหล่อหลอมตนเองเพื่อมีชีวิตที่ดีหลังจากที่จบจากมหาวิทยาลัยและ มีส่วนร่วมพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง”   จากโครงการดังกล่าว มีบุตรหลานของครอบครัวที่ยากจนและเกือบยากจนแทบทุกคนที่จังหวัดและนคร๖๓แห่งได้กู้เงิน แต่ในทางเป็นจริง นักศึกษาจำนวนมากหลังจากที่จบจากมหาวิทยาลัยและโรงเรียนอาชีวศึกษากลับไม่สามารถหางานทำและชำระคืนเงินกู้ได้ ในขณะที่ครอบครัวก็ยังคงยากจน และไม่สามารถชำระหนี้ได้เช่นกัน  นายLò Văn Đức หัวหน้าฝ่ายสินเชื่อสำหรับนักเรียนและนักศึกษาแห่งธนาคารนโยบายสังคมเผยว่า  รัฐจะดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้กู้เงิน“หลังจากที่จบจากมหาวิทยาลัย๑ปี นักศึกษาจะต้องเริ่มชำระเงินกู้ สำหรับครอบครัวที่ยากจนอาจจะทำระเบียบการขอผ่อนผันได้ซึ่งก็มีนักศึกษาจำนวนมากได้ขอผ่อนผันเนื่องจากยังไม่สามารถหางานทำได้หลังจากที่จบจากมหาวิทยาลัยซึ่งปัญหานี้จะนำเสนอให้รัฐบาลพิจารณาต่อไป”

ท่านNguyễn Thiện Nhân รองนายกรัฐมนตีกล่าวว่า โครงการเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาได้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้(Photo:Internet)

เพื่อมีแหล่งเงินทุนที่มีเสถียรภาพและยั่งยืน ธนาคารนโยบายสังคมที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบด้านเงินทุนสำหรับโครงการดังกล่าวจากรัฐบาลควรจำหน่ายพันธบัตรภายใต้การค้ำประกันของรัฐบาลเพื่อส่งเสริมให้ทุกคนในสังคมเข้าร่วมโครงการ ท่านNguyễn Thiện Nhân รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้กำชับให้ กระทรวง  หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆทำการสำรวจครอบครับที่ยากจนและเกือบยากจนเพื่อให้กู้เงินตรงเป้าหมาย  ขยายเวลาชำระหนี้ให้แก่นักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยแต่ยังไม่มีงานทำ พร้อมทั้งขยายเป้าหมายให้กู้เงิน“ได้มีขั้นตอนการเพิ่มค่าเล่าเรียนในช่วงปี๒๐๑๐ถึงปี๒๐๑๕  แขนงอาชีพต่างๆจะมีค่าศึกษาเล่าเรียนที่แตกต่างกัน  ดังนั้นพวกเราจะร่วมกับกระทรวงศึกษาและฝึกอบรมพิจารณาอัตราเงินกู้ตามแขนงอาชีพโดยพยายามให้กู้เงินเพียงพอสำหรับค่าเล่าเรียน นอกจากนี้ยังมีความช่วยเหลือค่าครองชีพด้วย”โครงการเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาแสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ ความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ของหน่วยงานทุกระดับและทั้งประชาคมซึ่งเป็นความสัมพันธ์พิเศษระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกับการรักษาสวัสดิการสังคม ทั้งนี้และทั้งนั้นก็คือการมุ่งสู่เป้าหมายปฏิบัติโครงการดังกล่าวอย่างยั่งยืน./.