(VOVWORLD) - “มีเรื่องราวต่างๆที่สร้างความซาบซึ้งใจในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาด ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ทำให้พวกเรามีความหวังใหม่และเห็นว่าชีวิตนี้ยังคงสวยงามมากถ้าหากทุกคนมีความเห็นอกเห็นใจและช่วยเหลือจุนเจือกัน” นี่คือสิ่งที่คุณ กาวแทงห่าได้ตระหนักในขณะอยู่บนเที่ยวบินที่ทางรัฐบาลเวียดนามจัดไปรับพลเมืองเวียดนามที่อาศัยในประเทศสาธารณรัฐเกาหลีกลับประเทศ
คุณ เจืองตู๋ถวี |
บนเที่ยวบินนี้ มีเด็ก 20 คนที่เป็นลูกของแรงงานเวียดนาม ซึ่งเด็กๆเหล่านี้ได้กลับประเทศโดยไม่มีพ่อแม่ไปด้วยแต่ก็ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากผู้โดยสารคนอื่นๆ คุณกาวแทงห่าได้เผยว่า “ชาวเวียดนามที่ดิฉันพบบนเที่ยวบินดังกล่าวได้ช่วยดูแลเด็กและกอดเด็กไว้ในอ้อมอก แม้จะไม่ใช่ญาติกันแต่พวกเขาก็พร้อมช่วยเหลือเด็กๆอย่างสุดใจ ซึ่งเป็นเรื่องราวทำให้ดิฉันมีมุมมองที่ดีเกี่ยวกับชีวิต แม้จะเกิดการแพร่ระบาดและทุกวันยังคงมีผู้เสียชีวิต เศรษฐกิจตกอยู่ภาวะถดถอยแต่ดิฉันคิดว่า ถ้าหากทุกคนแบ่งปันความรักให้แก่กันมีความรักใคร่ พวกเราจะสามารถฟันฝ่าทุกอุปสรรคได้”
การเดินทางกลับเวียดนามด้วยเที่ยวบินพิเศษที่ทางรัฐบาลเวียดนามจัดไปรับพลเมืองเวียดนามในอินโดนีเซียเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2020 ทำให้คุณ เจืองตู๋ถวี ต้องเข้าพักที่เขตแยกตัวที่กองพล 392 กองทัพภาคที่ 9 ในนครเกิ่นเทอเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งเป็นความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับความรักใคร่และความช่วยเหลือจุนเจือกัน โดยไม่ว่าฝนจะตกแดดจะออก กลางวันหรือกลางคืน เจ้าหน้าที่ทหารก็ทำข้าวกล่องแสนอร่อยแจกให้และดูแลสุขภาพเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ที่ถูกแยกตัวทุกคน“การที่เจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติหน้าที่ในเขตแยกตัวและเขตที่เกิดการแพร่ระบาด รวมถึงทีมแพทย์อาสาที่ตรวจรักษาโรคในเขตที่พบผู้ติดเชื้อแสดงให้เห็นถึงจิตใจแห่งความเมตตาของคนเวียดนามในสภาวการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั่นคือการเสียสละเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและสะท้อนให้เห็นถึงเกียรติประวัติแห่งการช่วยเหลือจุนเจือกันของประชาชาติเวียดนาม”
จากการพำนักอาศัยและทำงานในเวียดนามในปี 2020 คุณ Kim Yoon-ji รู้สึกมีความห่วงใยมากเมื่อตรวจพบผู้ติดเชื้อรายแรกในเวียดนาม แต่เธอก็ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของรัฐบาลเวียดนามอย่างเคร่งครัด การที่เวียดนามสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่เธอเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่ปลอดภัยมากกว่าประเทศอื่นในโลก“จำนวนผู้ติดเชื้อในเวียดนามไม่มากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในโลก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ส่วนประชาชนได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและรับมือกับการแพร่ระบาดของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการที่ได้อยู่ในประเทศเวียดนามถือว่ามีความปลอดภัยมาก”
จากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในแนวหน้า นายแพทย์เหงวียนเลินเฮี้ยวมีความเข้าใจเกี่ยวกับความรักใคร่และการช่วยเหลือจุนเจือกันผ่านเรื่องราวต่างๆ รวมถึงน้ำใจของประชาชนที่มีต่อแพทย์“การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่วิกฤตนี้ก็ทำให้เราตระหนักถึงความสามัคคีและการช่วยเหลือจุนเจือกันของคนเวียดนาม โดยปกติเรามักจะไม่ค่อยสนใจเรื่องของคนรอบข้างเท่าไหร่ แต่ในสภาวการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ สงครามและศัตรูผู้รุกราน ประชาชนเวียดนามกลับยิ่งมีความสามัคคีและช่วยเหลือจุนเจือกันมากขึ้น”
นายแพทย์เหงวียนเลินเฮี้ยว |
หลังจากเดินทางไปยังประเทศอินโดนีเซีย คุณ เจืองตู๋ถวี รู้สึกภาคภูมิใจที่เพื่อนชาวอินโดนีเซียชื่นชมงานด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดเพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชนของรัฐบาลเวียดนาม คุณ เจืองตู๋ถวีกล่าวว่า“ตอนนี้ ประชาชนอินโดนีเซีย รวมทั้งชมรมชาวเวียดนามในประเทศอินโดนีเซียกำลังประสบความยากลำบากจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ความปลอดภัยของประชาชนเวียดนามเป็นสิ่งที่ประชาชนประเทศต่างๆหวังจะได้เห็นในประเทศของตัวเอง ซึ่งผลสำเร็จนี้มาจากความสามัคคี ความช่วยเหลือจุนเจือกันและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการบริหารของรัฐบาล”
ตรุษเต๊ตปีฉลู2021 คือตรุษเต๊ตพิเศษเพราะประชาชนทุกคนได้ฟันฝ่าความยากลำบากต่างๆในตลอด 1 ปีที่ผ่านมา แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงน่ากังวล ซึ่งทำให้การต้อนรับตรุษเต๊ตต้องคำนึงถึงความปลอดภัยให้แก่ทั้งชาวเวียดนามและชาวต่างชาติซึ่งถือได้ว่า เป็นโอกาสให้ประชาชนเวียดนามเสริมสร้างความสามัคคีและการช่วยเหลือจุนเจือกันในการป้องกันและรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ขณะนี้ นายแพทย์เหงวียนเลินเฮี้ยวได้ออกไปทำงานที่โรงพยาบาลเพื่อเตรียมพร้อมรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเขาบอกว่า ถ้าหากโรงพยาบาลกลายเป็นแหล่งระบาดก็จะมีความอัตรายมากกว่าการระบาดในชุมชน ซึ่งบรรดาแพทย์เวียดนาม รวมทั้งตัวเขาต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นเพื่อปกป้องทั้งตนเองและชุมชน นายแพทย์เหงวียนเลินเฮี้ยวยังได้แสดงความเห็นอกเห็นใจต่อชมรมชาวเวียดนามในต่างประเทศที่ไม่สามารถเดินทางกลับเวียดนามเพื่อฉลองตรุษเต๊ตได้“ตรุษเต๊ตปีนี้พิเศษมาก โดยประชาชนทุกคนต่างรู้สึกภาคภูมิใจต่อประชาชาติเวียดนาม โดยรัฐบาลได้พยายามจัดเที่ยวบินพาพลเมืองเวียดนามในประเทศต่างๆกลับประเทศ ซึ่งถือได้ว่า เป็นเที่ยวบินแห่งความรัก แต่ก็ยังมีชาวเวียดนามอีกหลายพันคนไม่สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อฉลองตรุษเต๊ตได้ ผมหวังว่า วิกฤตโควิดจะได้รับการขจัดในเร็ววันและตรุษเต๊ตปีหน้าจะเป็นตรุษเต๊ตแห่งการชุมนุมครอบครัวที่พร้อมหน้าพร้อมตากัน”
ส่วนนาง Kim Yoon-ji ผู้เชี่ยวชาญสาธารณรัฐเกาหลียังคงทำงานกับผู้สื่อข่าวและบรรณาธิการของส่วนกระจายเสียงต่างประเทศแห่งชาติหรือวีโอวี 5ในการผลิตรายการภาคภาษาเกาหลี“ดิฉันคิดว่า เวียดนามเป็นประเทศที่สวยงามและถือเป็นบ้านเกิดแห่งที่ 2 ของดิฉัน ดิฉันจะเชิญญาติและเพื่อนๆมาเยือนเวียดนามและมาเยี่ยมบ้านของดิฉันในประเทศเวียดนาม”