เลขาธิการใหญ่พรรค เลหยวน ผู้นำที่ปรีชาสามารถและกุลบุตรที่ยอดเยี่ยมของเวียดนาม

(VOVworld)- ท่านเลขาธิการใหญ่พรรค เลหยวน เป็นผู้ที่มีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ในภารกิจการต่อสู้และปลดปล่อยประชาชาติรวมประเทศเป็นเอกภาพ ท่านคือผู้นำที่พร้อมสละทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของชาติ มีความซื่อสัตย์ เมตตาอารีและรักพี่น้องประชาชนอย่างเปี่ยมล้น ในโอกาสฉลองครบรอบ 110 ปีวันคล้ายวันเกิดของเลขาธิการใหญ่พรรค เลหยวน ซึ่งตรงกับวันที่ 7 เมษายน ทางรายการขอเสนอสารคดีเรื่อง “เลขาธิการใหญ่พรรค เลหยวน ผู้นำที่ปรีชาสามารถและกุลบุตรที่ยอดเยี่ยมของประชาชาติเวียดนาม”



(VOVworld)- ท่านเลขาธิการใหญ่พรรค เลหยวน เป็นผู้ที่มีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ในภารกิจการต่อสู้และปลดปล่อยประชาชาติรวมประเทศเป็นเอกภาพ ท่านคือผู้นำที่พร้อมสละทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของชาติ มีความซื่อสัตย์ เมตตาอารีและรักพี่น้องประชาชนอย่างเปี่ยมล้น ในโอกาสฉลองครบรอบ 110 ปีวันคล้ายวันเกิดของเลขาธิการใหญ่พรรค เลหยวน ซึ่งตรงกับวันที่ 7 เมษายน ทางรายการขอเสนอสารคดีเรื่อง “เลขาธิการใหญ่พรรค เลหยวน ผู้นำที่ปรีชาสามารถและกุลบุตรที่ยอดเยี่ยมของประชาชาติเวียดนาม”

เลขาธิการใหญ่พรรค เลหยวน ผู้นำที่ปรีชาสามารถและกุลบุตรที่ยอดเยี่ยมของเวียดนาม - ảnh 1

จากการพยากรณ์สถานการณ์หลังจากที่ข้อตกลงเจนีวาได้รับการลงนามเมื่อปี1954  ปี1956ในฐานะเป็นเลขาธิการพรรคเขตภาคใต้ ท่านเลหยวนได้เขียน “ร่างแผนการปฏิวัติภาคใต้”ที่ระบุเกี่ยวกับการปฏิวัติที่รุนแรงและการต่อสู้ด้วยอาวุธ ซึ่งในสภาวการณ์ที่การปฏิวัติในภาคใต้ถูกปราบปรามจำเป็นต้องมีกองกำลังติดอาวุธที่เข้มแข็งเพื่อค้ำประกันให้การต่อสู้ทางการเมืองประสบความสำเร็จ ท่านได้ยื่นเสนอต่อคณะกรรมการพรรคส่วนกลางในการออกมติ15ที่สามารถตอบสนองความต้องการของสถานการณ์และความปรารถนาของเจ้าหน้าที่และประชาชนในการแก้ไขปัญหาความต้องการในการพัฒนาของการปฏิวัติภาคใต้คือต้องใช้กำลังอาวุธเพื่อนำการปฏิวัติพ้นจากภาวะที่ล่อแหลม  มตินี้ได้เปิดทางให้การปฏิวัติภาคใต้พลิกสถานการณ์และนำไปสู่การลุกขึ้นสู้อย่างเด็ดเดี่ยวของชาวภาคใต้เมื่อปี1960 ดร.ประวัติศาสตร์ เจิ่นถิหญูง ยืนยันเกี่ยวกับความหมายของการลุกขึ้นสู้ของชาวภาคใต้ว่า“การลุกขึ้นสู้ของชาวภาคใต้ได้นำไปสู่ผลงานที่สำคัญคือประชาชนและกองกำลังปฏิวัติสามารถควบคุมเขตชนบทส่วนใหญ่ของภาคใต้ในตอนนั้น อันเป็นการแสดงให้เห็นถึงแนวทางการชี้นำที่ถูกต้องของท่านเลขาธิการใหญ่พรรคเลหยวนในการเปลี่ยนมาใช้วิธีการต่อสู้ด้วยอาวุธเพื่อโค่นล้มทางการหุ่นไซ่ง่อน”

แนวคิดของท่านเลหยวนได้สะท้อนให้เห็นในผลงานเรื่อง “จดหมายถึงภาคใต้” โดยพร้อมกับแนวทางการต่อสู้ปฏิวัติด้วยอาวุธ ท่านเลขาธิการใหญ่พรรคเลหยวนได้ชี้ชัดว่า  ในกระบวนการต่อต้านสหรัฐอเมริกา ไม่เพียงแต่ต้องทำการต่อสู้ด้วยอาวุธเท่านั้นหากต้องผสานกับการต่อสู้ทางการเมืองถึงจะชนะได้ โดยเป้าหมายแรกคือการต่อสู้ด้วยอาวุธตามสนามรบต่างๆก็เพื่อทำลายกองกำลังของศัตรู ส่วนเป้าหมายที่สองคือต้องยึดคืนที่ดินและความไว้วางใจของประชาชนมิฉะนั้นก็จะไม่ได้รับการสนับสนุนในการเป็นแนวหลังของประชาชนเพื่อลำเลียงเสบียงกรัง จากทัศนะดังกล่าวกองกำลังปฏิวัติติดอาวุธได้ปักหลักตามเขตชนบทแล้วค่อยๆเคลื่อนไปสู่เขตตัวเมืองรอโอกาสลุกขึ้นปลดปล่อยภาคใต้รวมประเทศเป็นเอกภาพเมื่อวันที่30เมษายนปี1975 พันเอกและรองศ. ดร. โห่เซินด่าย อดีตหัวหน้าคณะวิทยาศาสตร์การทหารแห่งกองทัพภาคที่7ชี้ว่า“ท่านเลขาธิการเลหยวนได้ร่วมกับคณะกรรมการพรรคส่วนกลางวางแนวทางการต่อสู้ปลดปล่อยประชาชาติ สร้างสรรค์กองกำลังและเสริมพลังการต่อสู้ปฏิวัติ กำหนดรูปแบบการต่อสู้ที่เหมาะสมกับกระบวนการต่อสู้ทางการเมือง การทูตและรณรงค์โน้มน้าวทางทหารเพื่อทำลายทุกยุทธศาสตร์การทำสงครามของศัตรูผู้รุกราน”

เลขาธิการใหญ่พรรค เลหยวน ผู้นำที่ปรีชาสามารถและกุลบุตรที่ยอดเยี่ยมของเวียดนาม - ảnh 2

ส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ต่อการปฏิวัติของท่านเลขาธิการใหญ่เลหยวนได้สะท้อนจากการตัดสินใจที่มีลักษณะก้าวกระโดดและเป็นการมองการณ์ไกลของผู้นำหลังจากที่ประเทศได้รับเอกภาพ มีสันติภาพและพัฒนาไปสู่สังคมนิยม โดยในสภาวการณ์ที่เต็มด้วยความลำบากของประเทศที่เพิ่งพ้นจากภาวะสงครามที่ยาวนานหลายสิบปี ด้วยความรับผิดชอบของผู้นำสูงสุดแห่งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ท่านเลหยวนได้พยายามแสวงหาก้าวเดินและวิธีการปฏิบัติใหม่เพื่อนำประเทศฝ่าฟันอุปสรรคทั้งปวง นายหวอวันเถือง หัวหน้าคณะกรรมการประชาสัมพันธ์และศึกษาส่วนกลางได้ยืนยันว่า“ท่านเลหยวนได้พยายามคิดค้นแสวงหาแนวทางการพัฒนาใหม่ผ่านการสรุปสถานการณ์และประสบการณ์ในกระบวนการสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ของชาติ อันเป็นการสร้างพื้นฐานให้แก่ภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศในระยะหลังที่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ริเริ่มในที่ประชุมสมัชชาพรรคครั้งที่6เมื่อปี1986”

เกี่ยวกับบทบาทของท่านเลขาธิการใหญ่พรรคเลหยวนในการยืนยันแนวทางอิสระแห่งประชาชาติผนึกแน่นกับสังคมนิยม รองศ.ดร.บุ่ยดิ่งฟอง จากสถาบันการเมืองแห่งชาติโฮจิมินห์กล่าวว่า ท่านเลหยวนเคยกล่าวไว้ว่าถ้าพูดถึงชนชั้นแต่ไม่กล่าวถึงประชาชาติก็เป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์เพราะถ้าเราไม่มีจิตสำนึกในประชาชาติก็ไม่สามารถทำการปฏิวัติสังคมนิยมได้ การสร้างสรรค์พัฒนาสังคมนิยม สร้างสรรค์ประเทศเวียดนามใหม่นั้นจะต้องทำเพื่อประชาชาติเวียดนามมิใช่เพื่อผลประโยชน์เฉพาะของชนชั้นกรรมชีพ ท่านคือแบบอย่างแห่งนักคอมมิวนิสต์ เป็นลูกศิษย์ที่ยอดเยี่ยม เป็นผู้ร่วมงานที่ใกล้ชิดและน่าไว้วางใจคนหนึ่งของประธานโฮจิมินห์ โดยส่วนอุทิศของท่านต่อการปฏิวัติเวียดนามได้ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์และได้สถิตในหัวใจของประชาชนเวียดนามตลอดกาล.                                           

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด