(VOVWORLD) - จังหวัดบิ่งเยืองเป็นหนึ่งในท้องถิ่นที่อยู่แถวหน้าในกระบวนการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลของเวียดนาม ซึ่งสามารถเห็นได้จากอันดับการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลแห่งชาติที่ขยับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระบวนการนี้ถือเป็นแรงกระตุ้นให้ทางการจังหวัดฯ พัฒนาเศรษฐกิจสังคมและสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในเวลาที่จะถึง
ทางหลวงหมายเลข 13 ที่ผ่านนครถวนอานและนครถูเหย่าหมดของจังหวัดบิ่งเยือง (qdnd.vn) |
เมื่อปี 2021 ดัชนีการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลของจังหวัดบิ่งเยืองอยู่อันดับที่ 22 จาก 63 จังหวัดและนครทั่วประเทศ เลื่อนขึ้น 9 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2020 นับตั้งแต่ต้นปี 2022 มาจนถึงปัจจุบัน ทางการจังหวัดฯ ได้ประกาศแผนการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลต่างๆ รวมทั้งการทดลองดำเนินการศูนย์ตรวจสอบ – บริหารอัจฉริยะจังหวัดบิ่งเยืองหรือ IOC การใช้ระบบกล้องCCTVสำหรับบริหารการจราจร ความปลอดภัยและใช้เป็นหลักฐานสำหรับลงโทษผู้ที่ทำผิดกฎหมาย พร้อมทั้งประกาศมติเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลของจังหวัดฯ ถึงปี 2025 กำหนดแนวทางถึงปี 2030 นาย เลต๊วนแอง ผู้อำนวยการสำนักงานการสื่อสารและประชาสัมพันธ์จังหวัดบิ่งเยืองเผยว่า ปัจจุบันนี้ จังหวัดบิ่งเยืองได้วางแนวการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลใน 3 เสาหลักคือ รัฐบาลดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัล
“สานต่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสำนักงานภาครัฐ ทางจังหวัดได้ผลักดันกระบวนการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล รัฐบาลดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัล โดยเน้นรัฐบาลดิจิทัล ซึ่งเราทำได้หลายอย่างแล้ว ในแผนการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลปี 2022 เน้นถึงหน้าที่หลักๆ เช่น การปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลที่ถือประชาชนและสถานประกอบการเป็นศูนย์กลาง มุ่งสู่ผลประโยชน์ของประชาชนและสถานประกอบการ ให้สิทธิพิเศษแก่บริการที่จำเป็นเพื่อรับใช้ประชาชนและสถานประกอบการ”
จังหวัดบิ่งเยืองตั้งเป้าไว้ว่า ถึงปี 2025 จะเสร็จสิ้นการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลในสำนักงานของพรรคฯ สำนักงานภาครัฐ แนวร่วมปฏิภูมิและองค์กรการเมือง – สังคม พยายามพัฒนามูลค่าเศรษฐกิจให้อยู่ที่ร้อยละ 30 ของ GRDP ภายในปี 2025 ถึงปี 2030 จะเป็นศูนย์กลางการทำธุรกิจสตาร์ทอัพนวัตกรรมของประเทศ ถึงปี 2045 จะพัฒนาเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตและให้บริการอัจฉริยะ ศูนย์กลางการทำธุรกิจสตาร์ทอัพนวัตกรรมของเอเชีย
ในความเป็นจริง ถึงขณะนี้ จังหวัดบิ่งเยืองได้บรรลุทุกมาตรฐานในการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างเครือข่ายเชื่อมโยงและใช้ระบบเครือข่ายการรับส่งข้อมูลเฉพาะในสำนักงานของพรรคฯ และรัฐอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนระบบฐานข้อมูลของจังหวัดฯ ก็ได้รับการลงทุนและขยายเพื่อพัฒนาเป็นฐานข้อมูลหลักและฐานข้อมูลสำรองเพื่อตอบสนองความต้องการในการพัฒนาตัวเมืองอัจฉริยะ
นอกจากนี้ บิ่งเยืองกำลังก่อสร้างศูนย์กลางต่างๆ เพื่อดึงดูดแรงงานที่มีคุณภาพสูงพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ วิจัยเทคโนโลยี 4.0 และก่อสร้างโรงงานอัจฉริยะเพื่อใช้ในการผลิต โดยพยายามพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อเป็นพื้นฐานให้แก่การสร้างสรรค์รัฐบาลดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัลและติดกลุ่มจังหวัดนำหน้าของเอเชียตะวันออนเฉียงใต้ในด้าน Data Science และ AI สำหรับการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลของจังหวัดในเวลาที่จะถึง นาย เหงียนเหวียดลอง ผู้อำนวยการสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจังหวัดบิ่งเยืองเผยว่า
“จำเป็นต้องเชื่อมโยงกับผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์เพื่อสนับสนุนทางการจังหวัดฯ จัดทำยุทธศาสตร์การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัล สังคมดิจิทัล ผลักดันโครงการฝึกอบรมที่เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ดังกล่าว เช่น การวิจัยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในหน่วยทหารที่ตั้งอยู่ในจังหวัด เป็นต้น”
ศูนย์ IOC ของจังหวัดบิ่งเยือง (binhduong.gov.vn) |
เพื่อผลักดันการปฏิบัติโครงการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลแห่งชาติระยะปี 2022-2025 วิสัยทัศน์ถึงปี 2030 ของรัฐบาล คณะกรรมการประชาชนจังหวัดบิ่งเยืองได้ชี้นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนทำการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารและผลประโยชน์ของโครงการฯ ที่เอื้อให้แก่ประชาชน ยกระดับทักษะความสามารถในการบริหารของสำนักงานที่รับผิดชอบ สร้างความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์อย่างกว้างขวางในสังคม ถึงขณะนี้ ในจังหวัดบิ่งเยือง มีสำนักงานและหน่วยงาน 18 แห่งจากจำนวนทั้งหมด 19 แห่งและมีท้องถิ่น 8 แห่งจาก 9 แห่งได้จัดตั้งคณะกรรมการชี้นำการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัล นาย ฝ่ามวันไบ๋ รองประธานคณะกรรมการประชาชนนครหยีอาน จังหวัดบิ่งเยืองยืนยันว่า
“เราพยายามลดระเบียบขั้นตอนต่างๆ ให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อประหยัดเวลา โดยมุ่งเน้น 3 เรื่อง คือ การชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางออนไลน์ ไม่ต้องไปสำนักงานและลดการใช้เอกสาร”
เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จังหวัดบิ่งเยืองได้ติดท็อป 7 ชุมชนอัจฉริยะชั้นนำของโลกปี 2022 และดัชนีการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลของจังหวัดบิ่งเยืองก็เลื่อนขึ้นในตารางการจัดอันดับของประเทศ ซึ่งผลงานเหล่านี้ถือเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่จังหวัดฯในการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลอย่างเข้มแข็งมากขึ้นในเวลาที่จะถึง.