(Photo Internet)

ปัจจุบันนี้ จังหวัดด่งนายมีนิคมอุตสาหกรรมมากที่สุดในเวียดนามโดยมี 30 แห่งที่เปิดให้บริการและมีหลายแห่งที่มีสถานประกอบการเข้าไปลงทุนจนเต็ม ที่น่าสนใจคือ ในหลายปีที่ผ่านมา การปฎิบัติแนวทางดึงดูดเงินทุนเอฟดีไอผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวด โดยให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆถึงโครงการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง แรงงานฝีมือ โครงการผลิตอุตสาหกรรมประกอบและโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ได้ช่วยให้เงินเอฟดีไอไหลเข้าจังหวัดฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อปี 2017 ทางการจังหวัดฯตั้งเป้าไว้ว่า จะพยายามดึงดูดเงินทุนเอฟดีไอให้ได้ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งพอถึงสิ้นปีก็สามารถดึงดูดได้กว่า 1.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากพื้นฐานดังกล่าว ใน 8 เดือนแรกของปี 2018 เงินทุนเอฟดีไอไหลเข้าจังหวัดด่งนายได้บรรลุกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับแผนที่วางไว้ โดยมีการมอบใบอนุญาติให้แก่โครงการลงทุนใหม่ 79 โครงการ รวมยอดเงินทุนกว่า 580 ล้านดอลลาร์สหรัฐและมี 77 โครงการที่เพิ่มเงินทุนอีกกว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

บริษัท Woosung Vietnam จำกัด ที่มีเงินทุนร้อยเปอร์เซ็นจากสาธารณรัฐเกาหลี ประกอบธุรกิจในด้านอาหารสัตว์ ณ นิคมอุตสาหกรรมเบ่าแซ้ว อำเภอจ๋างบอม จังหวัดด่งนายตั้งแต่ปี 2005 และปัจจุบันนี้ ทางบริษัทได้เพิ่มเงินทุนอีก 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ยอดเงินลงทุนในจังหวัดด่งนายถึง 18.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นายกิมซุงฮี ผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัทฯเผยว่า จังหวัดด่งนายมีเงื่อนไขที่สะดวกต่างๆ โดยเฉพาะการให้เช่าที่ดินในราคาถูกและการมีตลาดที่เต็มไปด้วยศักยภาพ            “ในขณะที่เราเริ่มก่อสร้างโรงงานในจังหวัดด่งนายก็ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากภาครัฐ ตั้งแต่การเจาะตลาดไปจนถึงความร่วมมือในการทดลอง ราคาเช่าดินในนิคมอุตสาหกรรมถูกมาก พวกเราเห็นว่า บรรยากาศการลงทุนในจังหวัดด่งนายดีมาก”

ในหลายปีที่ผ่านมา แนวทางดึงดูดเงินทุนเอฟดีไอของทางการจังหวัดฯ ได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยการคัดเลือกไม่เน้นในด้านจำนวน หากเน้นในด้านคุณภาพผ่านเงื่อนไขที่เข้มงวดต่างๆ พร้อมทั้งให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อโครงการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง แรงงานฝีมือ โครงการผลิตอุตสาหกรรมประกอบและโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดยเฉพาะได้ปฏิเสธโครงการเอฟดีไอที่ประกอบธุรกิจในด้านที่ไม่เหมาะสม ซึ่งแม้จะมีการคัดเลือกอย่างเข้มงวดแต่จำนวนเงินเอฟดีไอที่ไหลเข้าจังหวัดฯยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้และอัตราการเบิกจ่ายเงินอยู่ในระดับสูง ซึ่งสะท้อนความสนใจของนักลงทุนต่างชาติ

ส่วนคณะกรรมการบริหารนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดด่งนายได้เผยว่า การคัดเลือกที่ทางการจังหวัดฯปฏิบัติในหลายปีมานี้มีความสอดคล้องกับแนวโน้มของโลกเกี่ยวกับการผลิตที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่เพื่อเตรียมพร้อมให้แก่การปฏิบัติแนวทางดังกล่าว ทางการจังหวัดก็ได้แจ้งข้อมูลให้สถานประกอบการหุ้นส่วนและสถานประเทศที่เคยลงทุนในจังหวัดทราบแล้วเมื่อหลายปีก่อน ดังนั้น เมื่อได้รับการปฏิบัติ แนวทางนี้จึงได้รับการขานรับอย่างเต็มที่ นาย มายวันเญิน รองหัวหน้าคณะกรรมการบริหารนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดด่งนายเผยว่า            “ในฟอรั่มสถานประกอบการ นายกรัฐมนตรีมีคำกล่าวที่น่าประทับใจคือ เงินลงทุนแต่ละด่งของนักลงทุนคือคะแนนโหวตให้แก่รัฐบาลในเชิงสร้างสรรค์ และเราเห็นว่า การลงทุนในจังหวัดด่งนายก็เช่นกัน เมื่อนักลงทุนเข้ามาลงทุนในจังหวัดด่งนายก็หมายความว่าพวกเขามีความเชื่อมั่นต่อการทำงานและคำขวัญของทางการจังหวัดคือ “เดินพร้อมกับสถานประกอบการ””

แม้มีการคัดเลือกด้วยเงื่อนไขที่เข้มงวดแต่สถานประกอบการเอฟดีไอยังคงเพิ่มเงินทุนหรือมาเปิดโรงงานสาขาในจังหวัดด่งนาย ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า แนวทางดึงดูดการลงทุนของทางการจังหวัดด่งนายกำลังเดินถูกทิศทางและสอดคล้องกับแนวโน้มของโลก.