นาย เหงียนซวนแถ่ง อาจารย์ของมหาวิทยาลัย Fulbright กล่าวปราศรัยในการสัมมนา

ในการสัมมนาเกี่ยวกับโครงการพัฒนานครโฮจิมินห์ให้เป็นศูนย์กลางด้านการเงินระหว่างประเทศที่มีขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ผู้แทนทุกคนต่างเห็นว่า นครโฮจิมินห์มีเงื่อนไขเพียงพอเพื่อพัฒนาเป็นศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศ และเป็นฮับการบริการระดับโลก มีชมรมเทคโนโลยีการเงินหรือ Fintech ที่พัฒนาอย่างคึกคักและส่วนในด้านไทม์โซน นครโฮจิมินห์ก็มีความเหมาะสมสำหรับการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ ในระยะยาว นครโฮจิมินห์จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ความยั่งยืนในการขยายตัวและพัฒนาบริการของชุมชนเทคโนโลยีการเงินและองค์กรการเงินดิจิทัล

นาย เหงียนซวนแถ่ง อาจารย์ของมหาวิทยาลัย Fulbright แสดงความคิดเห็นว่า ธนาคารดิจิทัลคือแนวโน้มที่เหมาะสมที่นครโฮจิมินห์ควรเน้นพัฒนา ควบคู่กับการจัดทำกรอบทางนิตินัยเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การดำเนินงานของเครือบริษัทการเงินที่ประกอบธุรกิจและให้บริการในหลายด้าน “เรามีจุดแข็งคือ Fintech ธนาคารดิจิทัลกำลังพัฒนาและเริ่มมีความโดดเด่น ซึ่งเราควรนำจุดแข็งเหล่านี้มาเป็นโครงสร้างส่วนหนึ่งที่สำคัญในระบบนิเวศศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศนครโฮจิมินห์ เรามีธนาคารพาณิชย์แบบเก่าและบริษัทหลักทรัพย์แบบเก่าที่ประกอบธุรกิจในตลาดเงินทุนและตลาดการเงินแต่เพื่อสามารถเชื่อมโยงสองระบบนี้เข้ากัน เราควรผลักดันรูปแบบและอนุมัติให้องค์กรการเงินปฏิบัติตามรูปแบบของเครือบริษัทการเงิน”

ส่วนนาย เจิ่นหงอกเทอ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจจากมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์นครโฮจิมินห์กล่าวว่า สำหรับศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศที่เก่าแก่ในทั่วโลก ต่างมีศูนย์กลางการเงินย่อย สำหรับประเทศเวียดนาม เราก่อตั้งศูนย์การเงินที่หลังจึงต้องสร้างความแตกต่างเพื่อให้สามารถทำการแข่งขัน ได้จากความได้เปรียบในการเดินเรือและท่าเรือทางทะเล นครโฮจิมินห์ควรพัฒนาเป็นศูนย์กลางการเงินสำหรับการเดินเรือและโลจิสติกส์ “นครโฮจิมินห์มีระบบท่าเรือ ที่สามารถเชื่อมโยงกับท่าเรือก๊ายแม๊บและท่าเรือถิหวายหรือแม้กระทั่งท่าเรือไฮฟองเพื่อสร้างศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศสำหรับการเดินเรือและโลจิสติกส์ ไม่ใช่แค่ทำการขนถ่ายสินค้าเท่านั้น นครปูซาน(Bussan) ถือเป็นตัวอย่างของศูนย์กลางการเงินที่มีประสิทธิภาพของสาธารณรัฐเกาหลีและเป็นเมืองพี่เมืองน้องกับนครโฮจิมินห์ ดังนั้นเราสามารถเรียนรู้ประสบการณ์จากพวกเขาได้”

ปัจจุบันนี้ นักลงทุนกำลังรอคอยการเปิดตัวของศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศในนครโฮจิมินห์เป็นอย่างมาก ดังนั้น ทางการนครฯจึงพยายามผลักดันกระบวนการนี้เพื่อไม่ให้พลาดกระแสเงินทุนที่กำลังจะไหลเข้าสู่ศูนย์กลางการเงินอื่นๆในภูมิภาค นาย Johan Nyvene ประธานคณะกรรมการผู้บริหารและที่ปรึกษาระดับสูงของบริษัทหุ้นส่วนหลักทรัพย์นครโฮจิมินห์เผยว่า เพื่อดึงดูดแหล่งเงินทุน ทางการนครฯควรเตรียมความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม และรับทราบถึงความต้องการของนักลงทุนระหว่างประเทศ “นักลงทุนต้องการอะไร พวกเขาต้องการกลไกและระเบียบการที่สามารถควบคุมความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี เพราะว่าใครๆก็กลัวการสูญเสียเงินในการลงทุน ถ้าหากมีความเชื่อมั่นต่อการควบคุมความเสี่ยงของเรา นักลงทุนก็จะกล้าลงทุน ดังนั้น เราต้องมีขั้นตอนเพื่อตอบสนองความต้องการนี้ของนักลงทุนแต่ก็ต้องนำประโยชน์มาให้แก่ประเทศและประชาชน”

ศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศในนครโฮจิมินห์จะได้รับการจัดตั้งช้ากว่าศูนย์กลางการเงินอื่นๆในภูมิภาคและโลก ดังนั้น จำเป็นต้องวิจัยการจัดทำกลไกและนโยบายเพื่อสร้างก้าวกระโดด สร้างระเบียบทางนิตินัยที่สามารถดึงดูดนักลงทุนจำนวนมาก พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมในด้านบุคลากรเพื่อตอบสนองความต้องการในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ มาตรการดึงดูดเงินทุน โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและกลไกนโยบาย.