ตอบจดหมายท่านผู้ฟังวันที่ 9 ตุลาคม
(VOVWORLD) - ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนกระจายเสียงต่างประเทศได้รับอีเมล์และจดหมายจากแฟนรายการ 346 ฉบับ จาก 35 ประเทศและดินแดน โดยรายการภาคภาษาไทยได้รับ 7 ฉบับ
ผู้ฟังหลายท่านได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับข่าวกิจกรรมช่วยเหลือเด็กที่ต้องกำพร้าเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 การเปิดตัวหนังสือเรื่อง “45 ปี ปิยสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม (ค.ศ.1976-2021): มรรคาแห่งประวัติศาสตร์” และเรื่องเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวและข้าวเม่าของเวียดนาม
กิจกรรมมอบทุนการศึกษาเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้าในเขตบิ่งเติน นครโฮจิมินห์ (qdnd.vn) |
หลังจากที่อ่านข่าวเปิดโครงการ “มือประสานมือ” สนับสนุนเด็กที่ต้องกลายเป็นกำพร้าเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 คุณ พิเชษฐ์ ทองพุ่มได้เขียนว่า “ผู้ประสบเคราะห์กรรมจากการระบาดของโควิด 19 ความเห็นอกเห็นใจต่อผู้ที่ติดเชื้อโควิดและต้องสูญเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมากเช่นนี้ ทำให้หลายครอบครัวต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่ที่สะเทือนใจผู้คนเป็นจำนวนมากที่พบว่ามีเด็กเล็กๆจำนวนมากที่ต้องมากำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย เรียกว่ายังอยู่ในวัยไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย หากมีญาติที่จะอุปการะต่อไปก็นับว่ายังดี แต่ที่น่าสงสารที่สุดก็คือเด็กที่ไม่มีญาติพี่น้อง เมื่อพ่อแม่เสียชีวิตไป เด็กเหล่านี้ต้องไปอยู่กับคนแปลกหน้าที่พวกเขาไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย แล้วอย่างนี้จิตใจของพวกเขาจะเป็นอย่างไร ยังไม่ต้องคิดถึงอนาคตหรอกครับ เพียงแค่ให้ผ่านไปแต่ละวันแต่ละคืนก็ยากแล้วสำหรับจิตใจน้อยๆเล่านี้ สำหรับประเทศไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้เตรียมแผนรองรับปัญหานี้อยู่แล้ว และก็เชื่อว่าอีกหลายประเทศก็คงมีการให้การช่วยเหลือสำหรับเด็กเหล่านี้เช่นกัน อย่างที่เวียดนามเขาก็มีโครงการ "มือประสานมือ"มารองรับ ร่วมกันดูแลเอาใจใส่และสนับสนุนเด็กที่มีพ่อแม่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด -19 จนถึงอายุ 18 ปีเพื่อช่วยให้เด็กๆ ฟันฝ่าอุปสรรคและมีชีวิตอย่างมีเสถียรภาพ ช่วยให้เด็กเหล่านี้สามารถโตขึ้นเหมือนเด็กธรรมดาและโตเป็นคนมีประโยชน์ต่อสังคมต่อไป คิดถึงเรื่องนี้แล้วเศร้าสะเทือนใจมากเลยครับ ก็หวังใจว่าแต่ละประเทศคงมีแผนการช่วยเหลือรวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศที่ทำงานด้านเด็กอย่าง UNICEF ที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ก็ขอภาวนาเอาใจช่วยให้เด็กๆที่น่าสงสารเหล่านี้จะได้มีที่พึ่งพิงและดำรงชีวิตที่มีอนาคตที่ดีต่อไป...เขียนแล้วน้ำตาจะไหลครับ...เด็กๆเอ๊ย Stay safe stay strong นะลูก..... ขอพระเจ้าคุ้มครองทุกคนให้ปลอดภัย”
นอกจากโครงการ “มือประสานมือ” แล้ว เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงเด็กกำพร้า รัฐ รัฐบาล กระทรวง หน่วยงาน ท้องถิ่นและองค์กรสังคมได้มีมาตรการช่วยเหลือเด็ก ตามมติที่ 20 ของรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบายช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายทางสังคมที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ปี 2021 เด็กกำพร้าที่มีอายุต่ำกว่า 4 ขวบได้รับเงินช่วยเหลือ 900,000 ด่งต่อเดือนและเด็กกำพร้าที่มีอายุ 4 ขวบขึ้นไปได้รับเงินช่วยเหลือ 540,000 ด่งต่อเดือน ส่วนเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคม ได้เห็นชอบเรื่องการมอบเงินช่วยเหลือเด็กที่ต้องกำพร้าเนื่องจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองทั้งหมดเสียชีวิตเนื่องจากโรคโควิด-19 ในระหว่างวันที่ 27 เมษายนถึงวันที่ 31 ธันวาคมปี 2021 คนละ 2 ล้านด่ง
กองเยาวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์และสภากองยุวชนนครโฮจิมินมอบสิ่งของที่จำเป็นและทุนการศึกษาเพื่อช่วยเหลือเด็กที่มารดาเสียชีวิตจากโควิด-19 |
นอกจากนโยบายของรัฐและทางการปกครองท้องถิ่นแล้ว องค์การ หน่วยงานและบุคคลได้ปฏิบัติกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมเพื่อช่วยเหลือเด็ก โดยสภากองยุวชนนครโฮจิมินห์ได้เปิดการรณรงค์เรี่ยไรเงินช่วยเหลือนักเรียนที่ต้องกำพร้าเนื่องจากพ่อแม่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 คนละ 3 ล้านด่งต่อปีจนกว่าจะเรียนจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในขณะที่สมาคมนักธุรกิจรุ่นใหม่ได้เรียกร้องให้สถานประกอบการและนักธุรกิจช่วยเหลือเด็กกำพร้า คนละ 1 ล้านด่งต่อเดือนจนถึงอายุ 18ปี ส่วนองค์กร Saigon Children’s Charity สถาบันวิจัยการบริหารและการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ MSD และศูนย์ยกระดับทักษะและช่วยเหลือสตรีและเด็กได้จัดกิจกรรมเรี่ยไรเงินช่วยเหลือเด็กกำพร้าในระยะยาว
ประมวลอีเมล์และคอมเมนต์ของแฟนรายการ
ผู้ฟังหลายท่านได้ให้ความสนใจต่อบทความเกี่ยวกับหนังสือเรื่อง “45 ปี ปิยสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม (ค.ศ.1976-2021): มรรคาแห่งประวัติศาสตร์”ที่เรียบเรียงโดยดร.เจืองถิหั่ง อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางและดร.นคร เสรีรักษ์ อาจารย์ประจำวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่นในโอกาสรำลึกครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเวียดนาม-ไทยซึ่งตรงกับวันที่ 6 สิงหาคม โดยอาจารย์เกษม ทั่งทอง ได้บอกว่า “มิตรภาพสวยงามเสมอ” ส่วนคุณจรัลนัดดา จรูญโรจน์และคุณพิเชษฐ์ ทองพุ่ม ได้เขียนว่า “ขอให้ความสัมพันธ์อันดีคงมั่นนิรันดร์”
เขตที่ราบสูง “กอนห่าหนึ่ง” มีน้ำตกที่สูงกว่า 15 เมตร รวม 12 แห่ง (VOV) |
อาจารย์เกษม ทั่งทอง ได้แสดงความยินดีที่เวียดนามที่มีเขตสงวนชีวมณฑลอีกสองแห่งที่ได้รับการรับรองเป็นเขตสงวนชีวมณฑลโลกจากยูเนสโก คือ เขตสงวนชีวมณฑล “นุ้ยชั้ว” (Núi Chúa) ในจังหวัดนิงห์ถวนและเขตที่ราบสูง “กอนห่าหนึ่ง” (Kon Hà Nừng) ในจังหวัดยาลาย นอกจากนี้ ยังได้คอมเมนต์ในรายการเพลงเกี่ยวกับฤดูข้าวเม่าว่า “ที่เมืองไทยก็มีข้าวเม่าเหมือนกัน แต่มักจะทำเป็นของหวานหลายอย่าง” ส่วนคุณพิเชษฐ์ ทองพุ่ม ได้เขียนว่า “ข้าวเม่าเป็นของที่ผมเคยทานตั้งแต่เป็นเด็ก และเคยเห็นผู้เฒ่าผู้แก่เขาทำ บางทีก็ไปช่วยเขาตำด้วย สนุกมากเลย ข้าวเม่านำมาทำเป็นขนมหวานได้หลายอย่าง อร่อยมากโดยเฉพาะขนมข้าวเม่าทอดที่มีไส้ในเป็นกล้วยไข่ อร่อยมากครับ เวลากลับไปบ้านที่ต่างจังหวัดครั้งใด พี่ๆน้องๆจะซื้อมาให้ทานเสมอ”และได้ส่งรูปขนมกล้วยทอดมาให้ดูด้วยนะครับ
ข้าวเม่าของเวียดนาม |