โฉมใหม่ของนครเดียนเบียนฟูหลังการปลดปล่อยเป็นเวลา 70 ปี

ท่านผู้ฟังที่เคารพ ประมวลภาพ “โฉมใหม่ของนครเดียนเบียนฟูหลังการปลดปล่อยเป็นเวลา 70 ปี” บทความ “บ้านไม้ยกพื้น เอกลักษณ์ในวิถีชีวิตของชนเผ่าไทในภาคตะวันตกของจังหวัดแทงฮว้า” “เอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนเผ่าฮวาในเมืองโจว์โด๊ก จังหวัดอานยาง” “เขตโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ของฮานอย” และ “การแสดงโอเปราเรื่องการ์เมน – นำเสนอรูปแบบการแสดงใหม่สู่ผู้ชมฮานอย” ต่างได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากท่านผู้ฟังหลายๆ ท่าน เช่น อาจารย์ เกษมทั่งทอง คุณ พิเชษฐ์ ทองพุ่ม คุณ Chalinan Sip…

คอมเมนท์ในประมวลภาพ “โฉมใหม่ของนครเดียนเบียนฟูหลังการปลดปล่อยเป็นเวลา 70 ปี” อาจารย์ เกษม ทั่งทอง ได้ให้ข้อสังเกตว่า “นครเดียนเบียนฟูกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยทางการปกครองและกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในท้องถิ่นได้ร่วมแรงร่วมใจพัฒนาให้เป็นนครระดับที่ 2 ภายในปี 2025 และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการให้บริการของเขตตะวันตกเฉียงเหนือ” หรือในประมวลภาพ “เขตโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ของฮานอย” อาจารย์ เกษม ยังเล่าว่า “จำได้ว่าเคยไปหลายแห่งเช่น หอธงฮานอย สระคืนดาบ สะพานเทฮุก ศาลเจ้าหงอกเซิน เจดีย์เต่า วันเหมียว-ก๊วกตื่อย้าม แผ่นศิลาจารึกชื่อจอหงวน สุสานท่านประธานโฮจิมินห์ เป็นต้น”

สถานที่ท่องเที่ยวที่อาจารย์กล่าวมาก็ล้วนแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงของกรุงฮานอยที่เราเคยพาอาจารย์ไปเที่ยวตอนได้รับรางวัลที่ 1 ของการประกวด “ความรู้เกี่ยวกับประเทศเวียดนาม” เมื่อปี 1995 พวกเราเชื่อว่า การเยือนเวียดนามครั้งนั้นจะต้องเป็นความทรงจำที่ดีและน่าประทับใจ ของอาจารย์ครับ หวังว่า ในการประกวดในปี 2025 ที่จะถึงนี้ เราจะได้รับบทความของอาจารย์และผู้ฟังชาวไทยอีกนะครับ ซึ่งทางเราจะแจ้งให้ท่านผู้ฟังทราบเกี่ยวกับการประกวดในปี 2025 เมื่อได้รับข้อมูลอย่างเป็นทางการ

สะพานเทฮุก (https://vinpearl.com)

สัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากอีเมล จดหมายและคอมเมนท์จากผู้ฟังชาวไทยแล้ว ทางวีโอวี 5 ของเรายังได้รับจดหมายและคอมเมนท์จากผู้ฟังประเทศต่างๆ เช่น คุณ Johnny Antonio Ramírez López จากประเทศเปรูกล่าวว่า “ในขณะที่ปลูกต้นไม้หรือเก็บผลไม้ ผมจะฟังเพลงเวียดนาม ซึ่งไพเราะมากจนสามารถเข้าถึงหัวใจผม ขอบคุณวีโอวีที่ได้นำรายการเพลงในวันอาทิตย์ที่เต็มไปด้วยความสุขมาให้แก่ผมนะครับ ผมชอบวีโอวี”

ส่วนคุณ Eugene Kornykhin จากกรุงมอสโคว ประเทศรัสเซียได้เขียนมาว่า “ปัจจุบันนี้ สื่อดีๆ ไม่ใช่จะพบได้ในทุกที่ แต่สถานีวิทยุเวียดนามมีผู้ฟังหลายๆ คนที่น่าประทับใจมาก โดยสามารถแต่งกลอน เล่าเรื่องราวในประเทศต่างๆ ซึ่งถือเป็นการยืนยันถึงความรักของผู้ฟังหลายๆ ท่านต่อสถานีวิทยุเวียดนามและประเทศเวียดนาม ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้คนหนึ่งของวีโอวี ขอให้เจ้าหน้าที่วีโอวีทุกคนประสบแต่ความสุขและสำเร็จในการทำงานนะครับ”

เรามีความยินดีเป็นอย่างมากที่รายการต่างๆ ของเราได้รับความนิยมจากผู้ฟังหลายประเทศ โดยหลายคนบอกว่า เป็นช่องทางเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเวียดนามที่ต้องติดตามทุกวัน ส่วนคุณ Moeum Phanit ได้ส่งอีเมลมาถามว่า มีแผนการที่จะไปชมทะเลเมฆที่เวียดนาม ขอให้ทางรายการแนะนำจุดชมทะเลเมฆที่สวยๆ ในเวียดนามและช่วงเวลาให้ด้วย คุณ ทวิช คะ คุณทวิช เคยไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในเวียดนามแล้ว เราควรแนะนำให้คุณ Moeum Phanit ไปชมทะเลเมฆที่ไหนดี

จุดชมเมฆที่สวยในเวียดนาม ผมขอแนะนำที่เมืองซาปาครับเพราะการเดินทางสะดวก ใช้เวลาเดินทางการกรุงฮานอยไม่นานและมีบริการด้านการท่องเที่ยวที่เป็นมืออาชีพ

เมืองซาปา

เมืองซาปาอยู่ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 300 กม. เท่านั้น นั่งรถยนต์ประมาณ 5-6 ชั่วโมงก็ถึงค่ะ แต่ถ้าเดินทางด้วยรถไฟก็จะออกจากฮานอยตอนกลางคืนและไปถึงเมืองลาวกายตอนเช้าแล้วต่อรถไปที่เมืองซาปาไม่นาน

ส่วนจุดที่เหมาะแก่การชมทะเลเมฆก็คือที่ยอดเขาฟานสีปัน ซึ่งเป็น “หลังคาแห่งอินโดจีน” ด้วยความสูงกว่า 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล การยืนชมทะเลเมฆจากยอดเขาจะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนแดนสวรรค์ ส่วนช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการชมทะเลเมฆคือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีเมฆมากที่สุด หรือหลังช่วงฝนตก ช่วงเช้าตรู่หรือในช่วงเย็นก็ได้ครับ

นอกจากซาปาแล้ว ที่เวียดนามก็มีสถานที่สำหรับชมวิวทะเลเมฆอีกหลายที่ คุณ ทวิช เคยไปเที่ยว ต่าชีหญู่ที่จังหวัดเอียนบ๊ายหรือยังคะ ที่นี่คือ 1 ใน 10 ภูเขาที่สูงที่สุดของเวียดนาม ตั้งอยู่ที่เทือกเขา หว่างเลียนเซินที่มีความสูงราว 2,979 เมตรจากระดับน้ำทะเลค่ะ  โดยเวลาชมทะเลเมฆที่สวยที่สุดคือระหว่างเดือนตุลาคม – เดือนมีนาคม

ผมไม่เคยไปเที่ยว ต่าชีหญู่ แต่เคยไปเที่ยวต่าสั่วที่จังหวัดเซินลาครับ ซึ่งก็น่าประทับใจมาก โดยที่นี่ได้รับฉายาว่า “กระดูกสันหลังไดโนเสาร์” เพราะแนวยอดเขาดูเหมือนกระดูกสันหลังของไดโนเสาร์และยังมีสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่ดิฉันอยากแนะนำคือ หมาปี่แหล่ง ที่จังหวัดห่ายางค่ะ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ยอดเขาที่คดเคี้ยวสูงชันที่สุดในเวียดนามค่ะ และช่วงเวลาที่เหมาะมาเที่ยวก็คือตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม – ต้นเดือนสิงหาคม โดยนอกจากได้ชมวิวที่สวยงามแล้ว คุณผู้ฟังยังสามารถแวะเยือนสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงต่างๆ เช่น ภูเขาดินฝาแฝด กว๋านบะ และหอธงชาติ หลุงกู๊ เป็นต้น

นอกจากสถานที่ข้างต้นที่เราแนะนำไปแล้ว ก็ยังมีอีกหลาย ๆ ที่เลยครับที่คุณผู้ฟังสามารถไปชมทะเลเมฆได้ เช่น สิ่นโห่ที่จังหวัดลายโจว อีตี๊และแบกหมกเลืองตื๋อที่จังหวัดลาวกาย ตามด๋าวที่จังหวัดหวิงฟุ๊ก บ่าน่าที่นครดานังและเมืองดาลัดที่จังหวัดเลิมด่ง...