ในด้านการเมืองและการทูต ทั้งสองฝ่ายได้มีการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงอย่างต่อเนื่อง โดยปฏิบัติกลไกการเจรจาทางการเมืองระดับรัฐมนตรีช่วยเป็นประจำทุกปี พร้อมส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือ การแลกเปลี่ยนผ่านช่องทางของพรรคและรัฐสภา รวมถึงการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน ส่วนทั้งสองประเทศให้ความสำคัญต่อความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนเป็นอันดับต้นๆ โดยเวียดนามเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของแคนาดาในอาเซียน ในขณะที่แคนาดาเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของเวียดนาม รองจากสหรัฐ ในภูมิภาคอเมริกา โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนยังคงมีการขยายตัวต่อปีในอัตราเลขสองหลัก ซึ่งบรรลุ 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีที่แล้ว สำหรับความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายได้จัดตั้งกลไกการเจรจาเชิงยุทธศาสตร์เกี่ยวกับนโยบายกลาโหมประจำปีและกำลังดำเนินแผนการความร่วมมือด้านกลาโหมระยะปี 2021-2023 อย่างแข็งขัน

นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำแคนาดา  ฝ่ามกวางวิงห์ ได้ประเมินว่า ยังมีศักยภาพอีกมากสำหรับความร่วมมือระหว่างสองประเทศในเวลาข้างหน้า โดยเวียดนามและแคนาดาต่างมีความประสงค์ในการสร้างภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่สันติภาพ เสถียรภาพ และพัฒนาบนพื้นฐานของการปฏิบัติตามกฎหมายสากล พร้อมจัดทำระเบียบและกฎเกณฑ์ต่างๆ ในทะเล รวมถึงทะเลตะวันออก ส่วนในด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน แคนาดาได้มองตลาดเวียดนามเป็นประตูสู่ตลาดอาเซียนแลภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในขขณะที่เวียดนามสามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของแคนาดาในด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ขั้นสูง  เพื่อสนับสนุนกระบวนการพัฒนาให้เป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจสีเขียว พลังงานสะอาด การปรับเปลี่ยนพลังงาน การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม.