กิจกรรมต่างๆนอกกรอบการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่างสหรัฐกับสาธารณรัฐเกาหลี

(VOVWORLD) -วันที่ 27 กุมภาพันธ์ คณะผู้แทนระดับสูงพรรคแรงงานสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี หรือ WPK นำโดยนาย Ri Su Yong รองหัวหน้าคณะกรรมการพรรคและหัวหน้าคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ได้เดินทางไปเยือนอ่าวฮาลองในจังหวัดกว๋างนิง
กิจกรรมต่างๆนอกกรอบการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่างสหรัฐกับสาธารณรัฐเกาหลี - ảnh 1คณะผู้แทนระดับสูงพรรคแรงงานสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเยือนอ่าวฮาลองในจังหวัดกว๋างนิง (Photo VNplus)

นี่เป็นหนึ่งในกิจกรรมนอกรอบการประชุมสุดยอดสหรัฐ-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีครั้งที่ 2 ณ กรุงฮานอย และการเยือนเวียดนามของนาย คิมจองอึน ผู้นำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ในการให้การต้อนรับคณะฯ นาย เหงวียนวันดอก เลขาธิการพรรคสาขาจังหวัดกว๋างนิงได้แนะนำเกี่ยวกับศักยภาพและจุดแข็งของจังหวัดกว๋างนิง พร้อมทั้งกล่าวว่า นาย คิมอิลซุง หัวหน้าพรรคแรงงานสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีผู้ล่วงลับเคยเดินทางมาเยือนอ่าวฮาลองเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 1964

ส่วนที่กรุงฮานอย ในค่ำวันที่ 26, 27 และ 28 จะมีการแสดงศิลปะโดยศิลปินที่มีชื่อเสียงของเวียดนาม ณ อนุสาวรีย์กษัตริย์ลี้ท้ายโต๋ เพื่อสรรเสริญเกี่ยวกับประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะกรุงฮานอย – นครแห่งสันติภาพ

หลังจากเยือนอ่าวฮาลองในจังหวัดกว๋างนิงห์ คณะฯได้เดินทางไปเยือนเมืองท่าไฮฟองและเยือนโรงงานผลิตรถยนต์ Vinfast เขตผลิตเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง VinEco Hai Phong และโรงแรม Vinpearl Hotel Imperia Hai Phong ในเครือของกลุ่มบริษัท VinGroup

ในวันเดียวกัน นาย เลวันแถ่ง เลขาธิการพรรคสาขาเมืองท่าไฮฟองได้ให้การต้อนรับและแจ้งผลสำเร็จของไฮฟองในหลายปีที่ผ่านมาให้คณะฯทราบ

ส่วนในเช้าวันที่ 28 กุมภาพันธ์ คณะฯ ได้มีการพบปะหารือกับผู้นำจังหวัดหายเยืองและไปเยือนโรงงานของบริษัทหุ้นส่วนพลาสติกและสิ่งแวดล้อมเขียวอานฟาดในอำเภอนามแซก จังหวัดหายเยืองและปลูกต้นไม้เป็นที่ระลึก

นอกจากนี้ คณะฯได้ไปเยือนสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรเวียดนามเพื่อศึกษาเกี่ยวกับวิธีการปลูกธัญญาหารของเวียดนาม เช่น ข้าว ข้าวโพดและมันฝรั่ง และมีความประสงค์ว่า เวียดนามจะผลักดันการสนับสนุนการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตสูง

บริษัทนำเที่ยวต่างๆยังเตรียมของที่ระลึกที่เป็นเอกลักษณ์ของเวียดนาม เช่น ภาพพื้นเมืองดงโห่ งอบเวียดนาม ชาดอกบัวและตุ๊กตา “จู๋เต๋วะ” ให้แก่ผู้สื่อข่าวต่างประเทศในศูนย์ข่าวนานาชาติ โดยเฉพาะบริษัทนำเที่ยว Hanoitourist และ Saigontourist ได้เปิด 9 ทัวร์ฟรีเยือนสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในกรุงฮานอย อ่าวฮาลองและจังหวัดนิงบิ่ง ให้แก่ผู้สื่อข่าวต่างชาติ เช่น ทัวร์รถเมล์ศึกษาค้นคว้ากรุงฮานอย ทัวร์เที่ยวหมู่บ้านโบราณเดื่องเลิม ทัวร์ศึกษาค้นคว้าหมู่บ้านศิลปาชีพในกรุงฮานอย ทัวร์ศึกษาค้นคว้าย่านโบราณ 36 สายในกรุงฮานอย ทัวร์มรดกโกลอ่าวฮาลอง จ่างอ่านและวัดบ๊ายดิ๊งในจังหวัดนิงบิ่งห์

โอกาสนี้ ทบวงการท่องเที่ยวยังจัดทำแผนการกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังจบการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 นี้โดยเน้นตลาดสหรัฐ รัสเซีย สาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่นและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์เกี่ยวกับประเทศเวียดนามให้แก่ประชาชนในประเทศต่างๆ

กิจกรรมต่างๆนอกกรอบการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่างสหรัฐกับสาธารณรัฐเกาหลี - ảnh 2

ส่วนนักท่องเที่ยวประเทศต่างๆก็ชื่นชมว่า ฮานอยกำลังมีส่วนร่วมต่อสันติภาพของโลก โดยคุณ Wiliiam Wikinson ชาวอเมริกันได้เผยว่า นี่เป็นครั้งที่สองมาเที่ยวเวียดนาม ซึ่งประจวบกับการจัดการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่างผู้นำสหรัฐกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ในระหว่างการเที่ยวกรุงฮานอย ก็ได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่คึกคักตามถนนสายต่างๆ ดอกไม้และธงชาติของทั้งเวียดนาม สหรัฐและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้ประดับประดาตามถนน ชาวฮานอยก็รู้สึกปลึ้มปิติยินดีเป็นอย่างมาก            “ผมคิดว่า หลังการประชุมครั้งนี้ จะมีมาตรการสันติภาพ ตอนนี้ผมคิดว่า ประเทศเวียดนามดีมาก คนเวียดนามก็ดี ผมสามารถไปเที่ยวสถานที่ที่ชอบได้ในประเทศเวียดนาม ผมรักกรุงฮานอยมาก นักท่องเที่ยวทั่วโลกควรมาเที่ยวเวียดนามและผมก็จะกลับมาเที่ยวเวียดนามอีกหลายๆครั้ง”

นักท่องเที่ยวจากหลายๆประเทศ เช่น สหรัฐ ฝรั่งเศสและบราซิลต่างชื่นชมว่า ฮานอยคือเมืองที่ปลอดภัยและมีอารยธรรม ดังนั้นการเลือกฮานอยเพื่อจัดการประชุมสุดยอดครั้งนี้ของวอชิงตันและเปียงยางคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง            “ผมหวังว่า ในช่วงนี้ ผู้นำประเทศต่างๆ จะสามารถร่วมกันคิดมาตรการแก้ไขการพิพาท ซึ่งก่อนอื่นคือกรณีระหว่างสหรัฐกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี และพวกเขาก็สามารถแสวงหามาตรการแก้ไขให้แก่การพิพาทต่างๆในทั่วโลก”

            “ฉันคิดว่า การประชุมระหว่างผู้นำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีกับประธานาธิบดีสหรัฐเป็นเรื่องที่ดี ถ้าหากผู้นำสองท่านนี้สามารถใกล้ชิดกันมากขึ้น จะเป็นข่าวดีให้แก่ทั้งทวีปเอเชียและสหรัฐและผลักดันสันติภาพในทั่วโลก”

ส่วนนางจุงรีนา ผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์ Asia Today ได้เผยว่า            “ฉันเคยลงข่าวในโอกาสการประชุมเอเปก 2017 และการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีแต่การลงข่าวในครั้งนี้คือโอกาสดีเพื่อให้ฉันรวบรวมประสบการณ์และเชื่อว่า สหรัฐ สาธารณรัฐเกาหลีและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีจะมีโอกาสสนทนามากขึ้นและจะบรรลุข้อตกลงสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีอย่างค่อยเป็นค่อยไป”

ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวใหญ่ๆของโลกได้ให้ข้อสังเกตุว่า มีความเป็นไปได้ที่การประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่างสหรัฐกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีจะมีการออกแถลงการณ์ที่สำคัญเกี่ยวกับสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด