กิจกรรมไว้อาลัยพลเอกหวอเหงียนย้าปในประเทศฝรั่งเศส
(VOVworld) – ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติจะจดจำความปรีชาสามารถและบุคลิกภาพของท่านเพื่อสานต่อสู่ชนรุ่นหลัง
|
คณะผู้แทนของนคร Choisy le Roi
|
(VOVworld) –ในระหว่างวันที่ 14-15 ตุลาคม ชาวเวียดนาม ชาวฝรั่งเศสและองค์กรตัวแทนของประเทศต่างประจำประเทศฝรั่งเศสได้เดินทางไปยังสถานทูตเวียดนามประจำฝรั่งเศสเพื่อไว้อาลัยพลเอกหวอเหงียนย้าป ซึ่งในนั้นมีคณะผู้แทนของนคร Choisy le Roi ซึ่งเป็นสถานที่ที่คณะผู้แทนสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามเคยอาศัยในตลอด 5 ปีที่ทำการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงปารีส ในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำประเทศฝรั่งเศส นายดาเนียล ดาวิสส์ นายกเทศมนตรีนคร Choisy le Roi ได้กล่าวว่า “ เมื่อได้ข่าวที่ว่า พลเอกหวอเหงียนย้าปถึงแก่อสัญกรรม พวกเรามีความเสียใจเป็นอย่างมากเพราะบุคคลที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศเวียดนามอีกคนได้จากเราไปแล้ว นคร Choisy le Roi เคยเคียงบ่าเคียงไหล่กับประเทศเวียดนามในสงครามช่วงชิงเอกราช เสรีภาพและรวมประเทศเป็นเอกภาพ ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติจะจดจำความปรีชาสามารถและบุคลิกภาพของท่านเพื่อสานต่อสู่ชนรุ่นหลัง” ข้อความแสดงความเศร้าเสียใจได้ถูกถ่ายทอดบนสมุดไว้อาลัย ซึ่งน่าสนใจคือคนเวียดนามและคนฝรั่งเศสรุ่นใหม่หลายคนได้แสดงความตั้งใจที่จะเรียนรู้และปฏิบัติตามตัวอย่างพลเอกหวอเหงียนย้าปเพื่อมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาประเทศเวียดนามในปัจจุบัน
ส่วนในบ่ายวันที่ 15 ตุลาคม พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การทหารเวียดนามที่ถนนเดียนเบียนฟูในกรุงฮานอยได้จัดงานนิทรรศการในหัวข้อ “หวอเหงียนย้าบ – พลเอกและผู้บัญชาการทหารสูงสุด” โดยมีภาพถ่ายและสิ่งของต่างๆเกือบ 300 ชิ้นเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและภารกิจของพลเอกหวอเหงียนย้าบ นายพลที่ปรีชาสามารถที่มีส่วนร่วมเป็นอย่างมากต่อภารกิจการปลดปล่อยประชาชาติ สร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิของประชาชนเวียดนาม นิทรรศการแบ่งเป็น 6 หัวข้อ ได้แก่ วัยเด็กของนายพลหวอเหงียนย้าป ช่วงทำสงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศส (ปีค.ศ. 1945-1954) ช่วงทำสงครามต่อต้านสหรัฐอเมริกา (ปีค.ศ. 1954-1975) ภารกิจสร้างสรรค์และพิทักษ์ประเทศ (ปีค.ศ. 1975 จนถึงปัจจุบัน) พลเอกกับมิตรประเทศและชีวิตของท่าน โดยจะจัดไปจนถึงปลายเดือนตุลาคมปี 2013 นอกจากนี้ ทางพิพิธภัณฑ์ยังจัดงานนิทรรศการในหัวข้อ “เสี้ยววินาทีที่เสียงปืนเงียบลง”โดยมีเอกสาร ภาพถ่ายและสิ่งของต่างๆเกือบ 500 ชิ้นที่บอกเล่าถึงช่วงเวลาที่ไม่มีเสียงปืนระหว่างการสู้รบ ./.