การประชุมนายกรัฐมนตรีกับสถานประกอบการปี 2019

(VOVWORLD) - เมื่อเช้าวันที่ 23 ธันวาคม ณ กรุงฮานอย นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้เป็นประธานในการประชุมกับสถานประกอบการในหัวข้อ “พัฒนาสถานประกอบการอย่างเข้มแข็ง – การผสมผสานอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน” โดยมีบรรดารองนายกรัฐมนตรี ผู้บริหารกระทรวง หน่วยงานและตัวแทนสถานประกอบการกว่า 700 แห่งเข้าร่วม 
การประชุมนายกรัฐมนตรีกับสถานประกอบการปี 2019 - ảnh 1 นายกรัฐมนตรีกล่าวปราศรัยในการประชุม (VGP)

ในการนี้ นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้ย้ำว่า รัฐบาลจะเดินพร้อมและสนับสนุนสถานประกอบการผ่านการกำหนดนโยบายต่างๆเพื่อลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายต่างๆ“ต้องมีปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ไขอุปสรรคและกำแพงต่างๆเพื่อสนับสนุนการพัฒนาของสถานประกอบการอย่างมีประสิทธิภาพและเข้มแข็งมากขึ้น โดยพัฒนาทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพและพัฒนาอย่างยั่งยืน”

นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้สถานประกอบการเสนอมาตรการต่างๆเพื่อมีส่วนช่วยปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมปี 2020 และแผนการพัฒนาระยะปี 2021-2025

ในการประชุม บรรดาผู้แทนได้ชื่นชมรัฐบาลที่ได้เดินพร้อมกับสถานประกอบการ ชื่นชมผลสำเร็จด้านเศรษฐกิจสังคมของประเทศในปี 2019 นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่สถานประกอบการและประชาชน มีส่วนร่วมต่อความมุ่งมั่นพัฒนาประเทศ ผู้ประกอบการยังย้ำถึงปัญหาต่างๆ เช่นการพัฒนาเศรษฐกิจ การพัฒนาแหล่งวัตถุดิบเพื่อสนับสนุนการพัฒนาป่าไม้แปรรูป

ในการกล่าวปราศรัยสรุปผลการประชุม นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้สั่งให้กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆปฏิบัติตามแนวทาง นโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาสถานประกอบการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อพัฒนาสถานประกอบการที่มีเงินลงทุนจากต่างประเทศและสถานประกอบการของชาวเวียดนามโพ้นทะเลที่กลับลงทุนในประเทศ อีกทั้งสั่งให้กระทรวง หน่วยงานต่างๆมีนโยบายที่เปิดเผย สนับสนุนสถานประกอบการพัฒนาที่เข้มแข็งมากขึ้น สถานประกอบการเวีดยนามต้องยกระดับจิตใจแห่งความสามัคคี การช่วยเหลือกันเพื่อก้าวรุดหน้าไป ผลักดันการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น

สำหรับฝ่ายรัฐบาล นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ต้องธำรงและเสริมสร้างความมั่นคงของเศรษฐกิจมหภาคและปฏิรูปมากขึ้นเพื่อให้การช่วยเหลือสถานประกอบการ “รัฐบาลให้คำมั่นผลักดันการปฏิรูปที่เข้มแข็งมากขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกมากขึ้นให้แก่สถานประกอบการลงทุน ผลิต ประกอบธุรกิจ ยกเลิกกีดกัน การผูกขาดของรัฐเพื่อสร้างโอกาสให้แก่ภาคเอกชนมากขึ้น รวมทั้งการบริการสาธารณะ การคุ้มครองกีดกันด้านการค้า เวียดนามผสมผสานเข้ากับกระแสโลกตามกำหนดการ และทุกข้อตกลงการค้าเสรีที่รัฐบาลอนุมัติต่างพิจารณาให้สถานประกอบการเวียดนามมีกรอบเวลาที่จำเป็นเพื่อเตรียมพร้อม.”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด