การประชุมอาเซียน+3 EASและARFเน้นถึงปัญหาที่ร้อนระอุในภูมิภาคและโลก
(VOVWORLD) -เมื่อวันที่7สิงหาคม ในกรอบการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่50และการประชุมต่างๆที่เกี่ยวข้อง ได้มีการจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน+3ครั้งที่18 การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกหรือ EAS ครั้งที่7 และฟอรั่มภูมิภาคอาเซียนหรือARFครั้งที่24
การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่50
|
โดยที่ประชุมได้ทบทวนความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างฝ่ายต่างๆในเวลาที่ผ่านมา กำหนดแนวทางความร่วมมือในเวลาที่จะถึง หารือเกี่ยวกับปัญหาในภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกันและเตรียมความพร้อมให้แก่การประชุมผู้นำอาเซียนกับหุ้นส่วนต่างๆที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้
ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นาย ฝามบิ่งมิง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เสนอให้อาเซียน+3เน้นร่วมมือด้านการค้า การเงิน เพิ่มทักษะความสามารถและเชื่อมโยงกับภูมิภาค ให้ความสนใจต่อสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ในการประชุมEAS รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เสนอให้อาเซียนส่งเสริมบทบาทการเป็นศูนย์กลาง พิจารณาด้านความร่วมมือใหม่ของEASที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของทุกฝ่าย ในการประชุมARF รองนายกรัฐมนตรีได้เสนอให้เสริมสร้างและขยายการปฏิบัติมาตรการสนทนาและสร้างความไว้วางใจ ความตระหนักร่วมและเพิ่มทักษะความสามารถของการทูตเชิงป้องกัน
การประชุมอาเซียน+3ได้อนุมัติแผนปฏิบัติงานในช่วงปี2018-2022เพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมืออาเซียน+3ในอีก5ปีข้างหน้า ส่วนการประชุมARFได้อนุมัติรายชื่อกิจกรรมต่างๆในช่วงปี2017-2018 ซึ่งเวียดนามจะเป็นประธานการสัมมนา2ครั้งเกี่ยวกับหัวข้อความร่วมมือระหว่างสำนักงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเลและการเพิ่มทักษะความสามารถให้แก่กองกำลังรักษาสันติภาพ
นอกเหนือจากปัญหาในภูมิภาคและโลกแล้ว ในการประชุมอาเซียน+3 EASและARF บรรดารัฐมนตรียังหารือเกี่ยวกับปัญหาที่ให้ความสนใจร่วมกันที่ส่งผลกระทบต่อการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค โดยเฉพาะ ปัญหาทะเลตะวันออก สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีและความท้าทายด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ เช่น การก่อการร้าย การใช้ความรุนแรงและความมั่นคงทางอินเตอร์เน็ต พร้อมทั้งย้ำว่า สันติภาพและความมั่นคงเป็นปัจจัยชี้ขาดเพื่อส่งเสริมความร่วมมือ การพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของทุกประเทศทั้งภายในและนอกภูมิภาค ที่ประชุมยังยืนยันถึงความสำคัญของการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคงและความปลอดภัยในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออกและแสดงความยินดีต่อการที่อาเซียนและจีนอนุมัติกรอบระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีเพื่อเป็นพื้นฐานในการผลักดันการเจรจาเกี่ยวกับการจัดทำซีโอซีอย่างมีประสิทธิภาพและจริงจัง.