การสัมมนาเวียดนาม-ฝรั่งเศสเกี่ยวกับการส่งเสริมการค้าและการลงทุน
(VOVWorld)-เมื่อวันที่๒๐ตุลาคม ณ กรุงปารีส ได้มีการจัดการสัมมนาภายใต้หัวข้อ “โอกาสเพื่อผลักดันการแลกเปลี่ยนทางการค้าและการลงทุนระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสในกรอบข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป”
การสัมมนาเวียดนาม-ฝรั่งเศสเกี่ยวกับการส่งเสริมการค้าและการลงทุน
(Photo: vietnamplus.vn)
|
(VOVWorld)-
เมื่อวันที่๒๐ตุลาคม ณ กรุงปารีส ได้มีการจัดการสัมมนาภายใต้หัวข้อ “โอกาสเพื่อผลักดันการแลกเปลี่ยนทางการค้าและการลงทุนระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสในกรอบข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป”เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างเครื่องหมายการค้าให้แก่สินค้าเวียดนาม การเชื่อมโยงระหว่างสถานประกอบการเวียดนามกับสถานประกอบการฝรั่งเศส การขยายการครองส่วนแบ่งในตลาดการส่งออก โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์การเกษตรของเวียดนาม การดึงดูดการลงทุนและการประกอบธุกิจของผู้ประกอบการฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมการส่งเสริมการค้าของเวียดนาม โดยมีสถานประกอบการเวียดนามและฝรั่งเศสประมาณ๘๐แห่งเข้าร่วม ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นาง เหงวียนกวิ่งแอง อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์เวียดนามประจำฝรั่งเศสได้เผยว่า“จากการจัดกิจกรรมที่สำคัญต่างๆในปี๒๐๑๖ เช่น การสัมมนาเกี่ยวกับเวียดนามในวุฒิสภาฝรั่งเศส การสัมมนาและสัปดาห์สินค้าเวียดนามในเมืองลียง โดยเฉพาะ การเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีฝรั่งเศสในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งการสัมมนาครั้งนี้เป็นการปฏิบัติคำมั่นทางการเมืองของผู้นำทั้งสองประเทศและตอบสนองความปรารถนาของชมรมสถานประกอบการเวียดนามและฝรั่งเศส”
ในการนี้ ผู้บริหารกรุงปารีสและสำนักงานส่งเสริมการค้าBussiness Franceได้แนะนำเกี่ยวกับจุดแข็งของฝรั่งเศส โดยเฉพาะ ของกรุงปารีสให้แก่บรรดานักลงทุนเวียดนามและผลิตภัณฑ์การส่งออกที่เป็นจุดแข็งของฝรั่งเศส นาย Philippe Yvergnaux ตัวแทนของสำนักงานส่งเสริมการค้าBussiness Franceได้เผยว่า “สำนักงานBussiness Franceประจำกรุงฮานอยได้จัดทำสิ่งพิมพ์ที่แนะนำการประกอบธุรกิจในเวียดนาม พวกเราพร้อมที่จะสนองข้อมูลให้แก่ผู้ประกอบการทั้งสองประเทศ พวกเราได้ประสานงานกับ Viettradeในการจัดการสัมมนาต่างๆเพื่อแสวงหาโอกาสความร่วมมือให้แก่ผู้ประกอบการ”
ในกรอบของการสัมมนา บรรดาผู้แทนยังเข้าร่วมการประชุมภายใต้หัวข้อ “อาหารแปรรูปและผลิตภัณฑ์การเกษตร” “สินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์จากยางพาราและความร่วมมือในด้านพลังงานหมุนเวียน”.