ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังการเยือน รัฐมนตรีต่างประเทศ บุ่ยแทงเซิน ได้ยืนยันว่า การเยือนประเทศจีนครั้งนี้ได้บรรลุผลงานที่สำคัญ มีส่วนช่วยส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมือง สร้างพื้นฐานที่สำคัญเพื่อผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศในสภาวการณ์ใหม่ ในกรอบการเยือน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เจรจาและพบปะกับผู้นำระดับสูงของจีน ได้แก่ ท่านสีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่พรรคฯ ประธานประเทศ  นาย หลี่เฉียง นายกรัฐมนตรี นาย จ้าวเล่อจี้ ประธานรัฐสภาและนาย หวัง ฮู่หนิงประธานแนวร่วมปิตุภูมิจีน ผู้นำทั้งสองประเทศได้ย้ำถึงความสำคัญในการควบคุมและแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง นำความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศพัฒนาอย่างมีเสถียรภาพ ประสิทธิภาพและยาวนาน ท่าน สีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่พรรคฯ ประธานประเทศจีนได้ยืนยันว่า การพัฒนาความสัมพันธ์กับเวียดนามเป็นทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์ของจีน  จีนให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์อันยาวนานกับเวียดนาม

ทั้งสองประเทศยังเห็นพ้องที่จะยกระดับคุณภาพของความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ผลักดันการเชื่อมโยงด้านการคมนาคม โดยเฉพาะทางรถไฟ ทางบก ด่านชายแดน ธำรงการแลกเปลี่ยนสินค้า ค้ำประกันห่วงโซ่การผลิตและห่วงโซ่อุปทาน ฟื้นฟูกิจกรรมการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน เช่น ฟอรั่มประชาชนเวียดนาม-จีน งานมหกรรมเยาวชนเวียดนาม-จีน การพบปะสังสรรค์มิตรภาพเวียดนาม-จีน เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่เข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างสองพรรคและสองรัฐ  ในกรอบการเยือน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้กล่าวปราศรัยในฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนาม-จีน และพบปะกับสถานประกอบการใหญ่ๆของจีน

สำหรับความหมายและผลการเข้าร่วมการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกปีนี้ ณ เมืองเทียนจินรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม บุ่ยแทงเซินได้ยืนยันว่า การเข้าร่วมของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้มีส่วนร่วมผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับ WEF  การที่ทั้งสองฝ่ายลงนามในบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับความร่วมมือในช่วงปี 2023 –2026ได้สร้างพื้นฐานเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายในระยะใหม่ ในขณะที่การพบปะระหว่างนายกรัฐมนตรีเวียดนามกับผู้นำประเทศต่างๆ เช่น มองโกเลีย นิวซีแลนด์ บาเบโดสก็ได้ช่วยกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือในด้านที่มีศักยภาพ เช่น เศรษฐกิจ การค้าและการท่องเที่ยว ส่วนการพบปะกับผู้บริหารเครือบริษัทต่างๆถือเป็นโอกาศให้เวียดนามได้แนะนำผลสำเร็จ ศักยภาพ จุดแข็ง เป้าหมายและแนวทางการพัฒนาของเวียดนาม.