ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน Recep Tayyip Erdogan หัวหน้าพรรคความยุติธรรมและการพัฒนา และนาย Kemal Kilicdaroglu ผู้นำพรรคสาธารณรัฐประชาชน  (ภาพจาก skynewsarabia)

การลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีตุรกีในครั้งนี้เป็น “การแข่งขัน” ระหว่างประธานาธิบดีคนปัจจุบัน Recep Tayyip Erdogan หัวหน้าพรรคความยุติธรรมและการพัฒนากับนาย Kemal Kilicdaroglu ผู้นำพรรคสาธารณรัฐประชาชน โดยในแถลงการณ์หาเสียงของตน ประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan ได้ให้คำมั่นว่า รัฐบาลชุดใหม่จะเดินหน้าในการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ สร้างที่พักอาศัยให้แก่ผู้มีรายด่ำ และลดอัตราเงินเฟ้อที่ยังควบคุมไม่ได้เป็นเวลานาน ส่วนนาย Kemal Kilicdaroglu ได้เข้าร่วมการเลือกตั้งด้วยเป้าหมาย "มั่งคั่งและร่มเย็นเป็นสุข" พร้อมคำมั่นที่จะมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางบริหารประเทศครั้งใหญ่ ทั้งนี้ กลุ่มผู้สังเกตการณ์ได้ให้ความเห็นว่า ประธานาธิบดีคนต่อไปต้องนำเศรษฐกิจของตุรกีให้พ้นจากวิกฤต รวมถึงการฟื้นฟูประเทศหลังภัยพิบัติแผ่นดินไหว ส่วนในด้านการตต่างประเทศ การเลือกตั้งครั้งนี้จะส่งผลต่อภูมิภาคเป็นอย่างมาก เนื่องจากตุรกีมีบทบาทสำคัญในการเจรจาอัสตานาเกี่ยวกับซีเรีย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย ตุรกี และอิหร่าน รวมถึงการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครนเกี่ยวกับการส่งธัญพืชจากยูเครนผ่านตุรกีไปยังเขตตะวันออกกลางและแอฟริกา นอกจากนี้ การเลือกตั้งครั้งนี้จะส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนในด้านนโยบายการต่างประเทศของทางการกรุงอังการา เช่น บทบาทของตุรกีในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือ NATO ความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรป สหรัฐ และรัสเซีย นโยบายการย้ายถิ่นฐาน ความตึงเครียดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก เป็นต้น.