คณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาอภิปรายร่างกฏหมายแนวร่วมปิตุภูมิฉบับแก้ไข

(VOVWorld) – ร่างกฏหมายนี้ประกอบด้วย๕บรรพ ๓๔มาตรา เพิ่มขึ้น๑บรรพ ๑๖มาตราเมื่อเทียบกับกฏหมายฉบับปัจจุบันโดยเพิ่มเติมบทบาทของแนวร่วมปิตุภูมิที่เป็นตัวแทนปกป้องสิทธิผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฏหมายและชอบธรรมของประชาชน
คณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาอภิปรายร่างกฏหมายแนวร่วมปิตุภูมิฉบับแก้ไข - ảnh 1
คณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาอภิปราย
ร่างกฏหมายแนวร่วมปิตุภูมิฉบับแก้ไข (Photo:vietnamplus)

(VOVWorld) –  ในกรอบการประชุมครั้งที่๑๗ เช้าวันที่๑๖เดือนนี้ คณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาได้อภิปรายและแสดงความคิดเห็นต่อร่างกฏหมายแนวร่วมปิตุภูมิฉบับแก้ไขภายใต้อำนวยการของท่านNguyễn Sinh Hùng ประธานรัฐสภา  ร่างกฏหมายนี้ประกอบด้วย๕บรรพ ๓๔มาตรา เพิ่มขึ้น๑บรรพ ๑๖มาตราเมื่อเทียบกับกฏหมายฉบับปัจจุบันโดยเพิ่มเติมบทบาทของแนวร่วมปิตุภูมิที่เป็นตัวแทนปกป้องสิทธิผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฏหมายและชอบธรรมของประชาชน ผู้แทนจำนวนมากได้เห็นชอบข้อกำหนดนี้เพราะความเป็นตัวแทนของแนวร่วมปิตุภูมิคือตัวแทนด้านสังคมซึ่งไม่มีลักษณะเป็นอำนาจรัฐ อีกทั้งเป็นการแปรหลักนโยบายการสร้างสรรค์ประเทศในระยะผ่านไปสู่สังคมนิยมฉบับเพิ่มเติมปี๒๐๑๑ให้เป็นรูปธรรม เกี่ยวกับการตรวจสอบและการรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนของแนวร่วมปิตุภูมิ ท่านNguyễn Kim Thoa หัวหน้าคณะกรรมาธิการการป้องกันประเทศและความมั่นคงแห่งรัฐสภาได้กล่าวว่า ควรทำความกระจ่างแจ้งต่อลักษณะการเป็นตัวแทนของประชาชนในการตรวจสอบของแนวร่วมปิตุภูมิ“ปัจจุบัน พวกเรามีการตรวจสอบการปฏิบัติอำนาจของสำนักงานที่มาจากการเลือกตั้ง และอำนาจทางการเมืองของสำนักงานพรรค ส่วนหน้าที่การตรวจสอบของแนวร่วมปิตุภูมิมีลักษณะเป็นของประชาชนซึ่งสอดคล้องกับสถานะของแนวร่วมปิตุภูมิที่ได้ระบุในรัฐธรรมนูญและกฏหมายที่ว่า แนวร่วมเป็นที่รวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชนที่มีต่อพรรคและรัฐ”      ส่วนในช่วงบ่าย ที่ประชุมได้แสดงความคิดเห็นต่อรายงานของรัฐบาลเกี่ยวกับมาตรการด้านภาษีเพื่อช่วยเหลือการผลิต ประกอบธุรกิจและอภิปรายร่างกฏหมายภาษีเงินได้สถานประกอบการฉบับแก้ไข ซึ่งรัฐบาลได้เสนอการประกาศใช้ข้อกำหนดบางข้อเกี่ยวกับภาษีที่ระบุในกฎหมายฉบับแก้ไขนี้ตั้งแต่วันที่1กรกฎาคมปี2013เป็นต้นไป โดยสถานประกอบการที่มีแรงงานประจำต่ำกว่า200คนทำงานเต็มเวลาและมีรายได้ไม่เกิน2หมื่นล้านด่งต่อปีจะต้องเสียภาษีรายได้ร้อยละ20  สถานประกอบการที่มีการลงทุนประกอบธุรกิจด้านการเคหะเพื่อสังคมต้องเสียภาษีร้อยละ10จากรายได้ที่มาจากการขายและให้เช่าบ้านพัก ส่วนประธานรัฐสภาได้เสนอว่า ต้องกำหนดแผนการปรับลดภาษีรายได้สถานประกอบการอย่างชัดเจนถึงปี2020       ปัจจุบันภาษีกำลังอยู่ที่ร้อยละ22 ถึงวันที่1มกราคมปี2016คือร้อยละ20 และจะลดลงเหลือร้อยละ18ในปี2020 ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น นโยบายด้านภาษีก็ไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อน หากแบ่งเป็นหลายประเภทสถานประกอบการมากเกินไปก็อาจจะนำไปสู่การทุจริตได้./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด