กฎหมายการเคหะมี 13 บรรพรวม 183 มาตราที่กำหนดเกี่ยวกับการถือกรรมสิทธิ์ในตัวบ้าน การซื้อขายบ้าน การบริหารของรัฐในด้านเคหะ ซึ่งนอกจากข้อกำหนดด้านการเงินเกี่ยวกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อให้แก่ประชาชนและสถานประกอบการ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในเป้านโยบายและผู้ที่มีรายได้ต่ำแล้ว ยังมีการขยายเป้าหมายและเงื่อนไขให้คนเวียดนามที่พำนักอาศัยในต่างประเทศ องค์กรและบุคคลชาวต่างชาติสามารถซื้อและถือกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในเวียดนามได้

ส่วนกฎหมายการประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ฉบับแก้ไขมี 6 บรรพรวม 82 มาตรา ซึ่งเป็นการเสริมเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้สมบูรณ์ ค้ำประกันความเป็นเอกฉันท์ พร้อมเพรียง หลีกเลี่ยงการซ้ำซ้อนระหว่างกฎหมายการประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กับกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆ เช่น กฎหมายที่ดิน ประมวลกฎหมายทางแพ่งและกฎหมายการลงทุน ในกฎหมายการประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ฉบับแก้ไขยังมีเนื้อหาใหม่ๆ นั่นคือการขยายขอบเขตการประกอบธรุกิจอสังหาริมทรัพย์ให้แก่องค์กร บุคคลชาวต่างชาติและคนเวียดนามที่พำนักอาศัยในต่างประเทศ ตลอดจนอนุญาตให้นักลงทุนประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สำหรับการอนุมัติกฎหมายสองฉบับดังกล่าว นาย ฉิงดิ่งหยุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการก่อสร้างเผยว่า “กฎหมายเหล่านี้ได้ตอบสนองความต้องการของหลักการสำคัญคือว่า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และเคหะต้องปฏิบัติตามการวางแผนและยกระดับความรับผิดชอบในการบริหารภาครัฐในระดับส่วนกลางและท้องถิ่นแทนการปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดและค้ำประกันให้ตลาดพัฒนาอย่างเข้มแข็งและโปร่งใส กฎหมายการเคหะมีจุดยืนอย่างชัดเจนว่า ไม่เพียงแต่พัฒนาการเคหะเพื่อประกอบธุรกิจเท่านั้น หากยังต้องพัฒนาที่พักอาศัยให้แก่ผู้ที่อยู่ในเป้านโยบายและคนที่มีรายได้ต่ำภายใต้การช่วยเหลือของรัฐอีกด้วย การประกาศกฎหมายการเคหะจะเป็นพื้นฐานสำคัญให้แก่การปฏิบัติเป้าหมายการค้ำประกันสิทธิมีที่อยู่อาศัยของประชาชนและเป็นการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายสองฉบับนี้ยังเป็นเครื่องมือและพื้นฐานทางนิตินัยเพื่อสร้างบรรยากาศลงทุนพัฒนาทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น”

ในบ่ายวันเดียวกัน รัฐสภาได้หารือเกี่ยวกับกฎหมายงบประมาณแผ่นดินฉบับแก้ไข./.