จังหวัดแค้งหว่าต้องเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเขตริมฝั่งทะเลภาคกลางตอนใต้และเขตที่ราบสูงเตยเงวียน

(VOVWORLD) - ในการประชุมใหญ่พรรคสาขาจังหวัดแค้งหว่าครั้งที่ 18 วาระปี 2020-2025 เมื่อเช้าวันที่ 13 ตุลาคม ประธานสภาแห่งชาติเหงวียนถิกิมเงินได้กำชับว่า ในเวลาข้างหน้า ทางการจังหวัดฯต้องปฏิบัติตามข้อสรุปของกรมการเมืองพรรคฯเกี่ยวกับการสร้างสรรค์และพัฒนาจังหวัดแค้งหว่าจนถึงปี 2020 วิสัยทัศน์จนถึงปี 2030 
จังหวัดแค้งหว่าต้องเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเขตริมฝั่งทะเลภาคกลางตอนใต้และเขตที่ราบสูงเตยเงวียน - ảnh 1ประธานสภาแห่งชาติเหงวียนถิกิมเงินกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม 

ข้อสรุปได้ระบุถึงแนวทางพัฒนาจังหวัดแค้งหว่าให้เป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการฝึกอบรมแหล่งบุคลากรเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเล การท่องเที่ยว เป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเขตริมฝั่งทะเลภาคกลางตอนใต้และเขตที่ราบสูงเตยเงวียน ซึ่งทางการจังหวัดฯต้องใช้ประโยชน์จากนโยบายให้สิทธิพิเศษต่างๆเพื่อดึงดูดโครงการลงทุนใหญ่ๆ ส่วนสถานประกอบการต้องทำการวิจัยและเตรียมพร้อมรับโอกาสจากข้อตกลงทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี โดยเฉพาะข้อตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่ในการผสมผสานเข้ากับตลาดโลกและเข้าร่วมห่วงโซ่คุณค่าโลก“จังหวัดแค้งหว่ามีสถานะทางภูมิศาสตร์เชิงยุทธศาสตร์ในงานด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงของเขต เป็นประตูสู่เขตที่ราบสูงเตยเงวียน มีท่าเรือกามแรงและมีอำเภอเจื่องซา ซึ่งเป็นป้อมปราการด่านหน้าของปิตุภูมิ ดังนั้น จังหวัดแค้งหว่าต้องปฏิบัติหน้าที่พัฒนาเศรษฐกิจสังคมควบคู่กับการป้องกันประเทศและความมั่นคงเป็นอย่างดี สร้างสรรค์กระบวนการปวงชนป้องกันประเทศควบคู่กับกระบวนการปวงชนรักษาความมั่นคงเพื่อปกป้องปิตุภูมิ เป็นฝ่ายรุกในการวิจัย เกาะติดและพยากรณ์สถานการณ์ มีมาตรการรับมือสภาวการณ์ต่างๆเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเมือง ความมั่นคง ความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม ปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน ทะเลและเกาะแก่งของเวียดนาม สร้างบรรยากาศที่เอื้อให้แก่การพัฒนาในทุกด้านของจังหวัด”

ก่อนหน้านั้น เมื่อบ่ายวันที่ 12 ตุลาคม ประธานสภาแห่งชาติเหงวียนถิกิมเงินได้ไปเยือนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จูงนามถวนนามที่สามารถผลิตไฟฟ้า 450 เมกะวัตต์ในจังหวัดนิงถวน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด