รถถังของกองทัพประชาชนเวียดนามบุกพังประตูเหล็กทำเนียบเอกราช(Photo:Internet)

VOVworld) – ๓๗ปีได้ผ่านพ้นไปแล้วนับตั้งแต่วันที่ภาคใต้เวียดนามได้รับการปลดปล่อยอย่างสมบูรณ์แต่ความหมายทางประวัติศาสตร์ของชัยชนะวันที่๓๐เมษายนปี๑๙๗๕ยังคงสถิตสถาพรจนถึงปัจจุบัน ในสายตาของผู้เชี่ยวชาญ นักการทหารและนักข่าวทั้งในและต่างประเทศ เหตุการณ์แห่งประวัติศาสตร์นี้ได้สะท้อนให้เห็นความปรารถนาอย่างแรงกล้าเกี่ยวกับเอกราชของประชาชาติ จิตใจของมหาสามัคคีชนในชาติและสติปัญญาของคนเวียดนาม  ชัยชนะแห่งประวัติศาสตร์ฤดูใบไม้ผลิปี๑๙๗๕ของเวียดนามไม่เพียงแต่เป็นเหตุการณ์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อประชาชนเวียดนามทุกคนและเป็นนิมิตรหมายของบูรณภาพแห่งดินแดน เอกราชและเสรีภาพในทั่วประเทศเวียดนามเท่านั้นหากยังสะท้อนให้เห็นเกี่ยวกับการต่อสู้อย่างทรหดอดทนและกล้าหาญของประชาชนเวียดนามเพื่อช่วงชิงเอกราชและเสรีภาพให้แก่ประชาชาติ คุณอีอาเลียน เอกูรีนา นักข่าวชาวรัสเซียกล่าวว่า “นี่คือชัยชนะระหว่างสิ่งใหม่กับสิ่งเก่า ระหว่างเสรีภาพกับการกดขี่ขูดรีดและเป็นชัยชนะของประชาชนเวียดนามเหนือจักรพรรดนิยมอเมริกา อีกทั้งแสดงให้เห็นเกี่ยวกับความมุ่งมั่นและความกล้าหาญของประชาชนเวียดนาม”   ชัยชนะดังกล่าวมาจากหลายปัจจัยเพราะนี่เป็นสงครามอันชอบธรรมภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์และประธานโฮจิมินห์ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้รักษาและส่งเสริมจิตใจเอกราช เสรีภาพ เชิดชูธงเอกราชประชาชาติและสังคมนิยมอยู่เสมอ ชัยชนะนี้มาจากความสามัคคี ความเป็นเอกภาพอย่างสูงสุดในจิตสำนึกและการปฏิบัติของปวงชน และกองทัพ ความสามัคคีเหนือใต้ ความสามัคคีของกองกำลังรักชาติ กองกำลังที่ก้าวหน้า และมาจากศิลปะการทหารของสงครามประชาชนและการโจมตีสหรัฐภายใต้การช่วยเหลือของประชาชน พลโท Phan Trung Kiên อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า “การปลดปล่อยภาคใต้เวียดนาม รวมประเทศเป็นเอกภาพแสดงให้เห็นถึงพลังที่เข้มแข็งของมหาสามัคคีชนในชาติโดยไม่จำแนกพื้นเพ ศาสนา ประชาชนทุกคนทำสงครามกู้ชาติโดยเฉพาะ การนำอย่างปรีชาสามารถของประธานโฮจิมินห์และพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม”      

ทหารปลดปล่อยบุคยึดสนามบินTân Sơn Nhất(Photo:Internet)

นายอาลัน รุสซีโอนักประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสกล่าวว่า ชัยชนะดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่มีความสำคัญไม่เพียงแต่ต่อประชาชนเวียดนามเท่านั้นหากต่อประชาชนชาวโลกอีกด้วย ส่วยนายชาวจาเจียน นักข่าวและผู้กำกับภาพยนตร์จีนกล่าวว่า ชัยชนะนี้ได้ปลุกเร้าประชาชาติที่ถูกกดขี่ขูดรีดในโลกให้ลุกขึ้นทำการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชให้แก่ประเทศตน “สงครามต่อต้านสหรัฐอเมริกาของประชาชนเวียดนาม โดยเฉพาะจิตใจสู้รบอย่างกล้าหาญไม่หวั่นกลัวความลำบากยากเข็ญและความเสียสละของกองทัพและประชานเวียดนามได้รับการชื่นชมจากชาวโลก  ปฏิบัติการแห่งความกล้าหาญของกองทัพและประชาชนเวียดนามทำให้ผมรู้สึกตื้นตันใจและดีใจต่อชัยชนะอันรุ่งโรจน์ของพวกเขา เรื่องราวเกี่ยวกับการสู้รบอย่างกล้าหาญและวีรกรรมอันรุ่งโรจน์ของประชาชนเวียดนามในสงครามต่อต้านสหรัฐอเมริกาถือเป็นมรดกอันล้ำค่าของประชาชนเวียดนามและประชาชนชาวโลก”        จากความหมายแห่งประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ดังกล่าว ชัยชนะวันที่๓๐เมษายนปี๑๙๗๕เป็นนิมิตรหมายอันดีในประวัติศาสตร์ของประชาชาติเวียดนามและเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อให้ประชาชนเวียดนามก้าวรุดหน้าไปบนเส้นทางแห่งการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง./.