(VOVworld) – เมื่อบ่ายวันที่ 14 พฤษภาคม ที่สำนักรัฐบาล ท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีได้ให้การต้อนรับนายนากาเน กาซูยูมี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นที่กำลังอยู่ระหว่างการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ โดยยืนยันถึงนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามที่จะร่วมมือกับญี่ปุ่นต่อเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศให้เข้าสู่ส่วนลึก เอื้อประโยชน์แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ มีส่วนร่วมต่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงเผยว่า ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมผู้นำแม่น้ำโขง – ญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศจะมีการพบปะหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสาตร์ในทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านการเมือง การทูต เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ความมั่นคงในทะเลและแรงงาน นายกรัฐมนตรีเวียดนามยังกล่าวขอบคุณญี่ปุ่นที่ได้สนับสนุนเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาโอดีเอในจำนวนมากและมีประสิทธิภาพให้แก่เวียดนามในหลายปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งเรียกร้องให้ญี่ปุ่นสนับสนุนเงินโอดีเอให้แก่เวียดนามต่อไปเพื่อพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคม

ส่วนนายนากาเน กาซูยูมี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นได้ยืนยันว่า ญี่ปุ่นให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนเงินโอดีเอต่อไปเพื่อช่วยเวียดนามพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างสรรค์โครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานและฝึกอบรมแหล่งบุคลากร ร่วมมือกับเวียดนามในด้านอุตสาหกรรมผลิตประกอบ การเกษตรและพัฒนาตัวเมือง

สำหรับปัญหาความมั่นคงในทะเลและในทะเลตะวันออก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นได้ชื่นชมแถลงการณ์ของประธานการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 26 ที่ได้มีขึ้น ณ ประเทศมาเลเซียเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งได้แสดงความกังวลอย่างมากของผู้นำทุกประเทศเกี่ยวกับการปรับปรุงและถมดินในทะเลตะวันออก ทำลายความไว้วางใจ ความเชื่อถือและส่งผลกระทบต่อสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพในทะเลตะวันออก นายนากาเน กาซูยูมีได้ยืนยันถึงทัศนะและจุดยืนที่เสมอต้นเสมอปลายของญี่ปุ่นเกี่ยวกับปัญหาในทะเลตะวันออก พร้อมทั้งกล่าวย้ำถึงบทบาทสำคัญของการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคงและความปลอดภัยในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก  โดยถือว่า ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพเกี่ยวกับแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันของฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีเพื่อร่าง รักษาและเพิ่มความไว้วางใจและความเชื่อถือต่อกัน มีความอดกลั้นในปฏิบัติการต่างๆ ไม่ข่มขู่หรือใช้อาวุธ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแก้ไขความแตกต่างและการพิพาทกันด้วยสันติวิธี ปฏิบัติตามกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 จัดการเจรจาอย่างจริงจังเพื่อนำไปสู่การจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีอย่างมีประสิทธิภาพโดยเร็ว ตลอดจนยุติการปฏิบัติเพียงฝ่ายเดียว การบังคับและใช้กำลังเพื่อเปลี่ยนสภาพเดิมในทะเลตะวันออก./.