นาย เลหายบิ่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม

(VOVworld) – วันที่ 24 กรกฎาคม ในการตอบคำถามของนักข่าวเกี่ยวกับท่าทีของเวียดนามในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนประจำของกระทรวงการต่างประเทศต่อการที่เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม จีนได้ขุดลอกคูคลองบริเวณโดยรอบเกาะ ยุวโหม่ง รวมระยะทางกว่า 1.7 กิโลเมตรซึ่งอยู่ในหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลที่อยู่ในอธิปไตยของเวียดนาม นาย เลหายบิ่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ย้ำว่า เวียดนามได้ยืนยันหลายครั้งถึงอธิปไตยเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลีย์ของเวียดนาม ทุกปฏิบัติการของจีนในหมู่เกาะทั้งสองแห่งดังกล่าวถือเป็นการละเมิดกฎหมายและเป็นโมฆะ
สำหรับการที่ชายชาวจีนใช้มีดทำร้ายสตรีเวียดนาม 5 คนจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คนและได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คนเมื่อค่ำวันที่ 22 กรกฎาคม ณ เมืองท่า ฟ้างเฉิง มณฑลกวางสี ประเทศจีน นาย เลหายบิ่งได้ยืนยันว่า หลังจากได้รับข่าว กระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้สั่งให้สำนักงานตัวแทนการทูตเวียดนามประจำประเทศจีนจัดทำข้อมูลและชื่อของผู้เคราะห์ร้าย ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและการส่งศพผู้เสียชีวิตกลับประเทศ“ในวันที่ 23 กรกฎาคม สถานกงสุลใหญ่เวียดนามประจำมณฑลหนานหนิงได้ทำการติดต่อกับสำนักงานที่เกี่ยวข้องของมณฑลกวางสีและเรียกร้องให้ช่วยเหลือการรักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสอง2 คนและเปิดการสืบสวนโดยเร็ว ส่วนเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม หัวหน้ากรมกงสุลของกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้พบปะกับรองเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงฮานอยเพื่อแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้”
สำหรับข่าวที่ทางการฟินแลนด์สามารถยึดอุปกรณ์ทางทหารที่ขนส่งจากเวียดนามไปยังยูเครน นาย เลหายบิ่งได้เผยว่า นี่คืออุปกรณ์ทางทหารที่ถูกนำไปซ่อมแซมในกรอบความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศระหว่างเวียดนามกับยูเครนและเป็นกิจกรรมตามปกติ ปฏิบัติตามกฎหมายสากลและธรรมเนียมปฏิบัติสากล ขณะนี้ สำนักงานที่เกี่ยวข้องของเวียดนามกำลังติดต่อกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาด้านระเบียบศุลกากรในการขนส่งผ่านฟินแลนด์
สำหรับการช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุเครื่องบินเอ็มเอช 17 ตกในภาคตะวันออกยูเครน นาย เลหายบิ่ง ได้ยืนยันว่า สำนักงานตัวแทนการทูตของเวียดนามประจำมาเลเซีย ยูเครนและเนเธอร์แลนด์กำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานที่เกี่ยวข้องของประเทศเหล่านี้เพื่อแก้ไขปัญหาการส่งศพชาวเวียดนาม 3 คนบนเที่ยวบินดังกล่าว พร้อมทั้งกระทรวงการต่างประเทศกำลังแนะนำขั้นตอนทางนิตินัยที่จำเป็นให้แก่ครอบครัวของผู้เคราะห์ร้ายเพื่อส่งศพของผู้เสียชีวิตกลับประเทศ./.