ที่ประชุมรัฐสภาอภิปรายเกี่ยวกับการปิดบัญชีงบประมาณแผ่นดินปี๒๐๑๐

(VOVworld) – รัฐสภาอนุญาติตัวเลขขาดดุลย์งบประมาณที่เกือบ๑ล้าน๒แสนล้านล้านด่ง คิดเป็นร้อยละ๖.๒ของจีดีพี  ส่วนตัวเลขขาดดุลย์ที่แท้จริงอยู่ที่๑ล้าน๙หมื่นล้านล้านด่ง คิดเป็นร้อยละ๕.๕ของจีดีพี ลดลดร้อยละ๐.๗ของจีดีพี

ที่ประชุมรัฐสภาอภิปรายเกี่ยวกับการปิดบัญชีงบประมาณแผ่นดินปี๒๐๑๐ - ảnh 1
ผู้แทนรัฐสภาแสดงความคิดเห็นต่อที่ประชุม(Photo:Internet)

(VOVworld) – เช้าวันที่๑๑เดือนนี้ ภายใต้อำนวยการของนางNguyễn Thị Kim Ngân รองประธานรัฐสภา ที่ประชุมรัฐสภาได้อภิปรายเกี่ยวกับการปิดบัญชีงบประมาณแผ่นดินปี๒๐๑๐โดยร่างรายรับงบประมาณมีกว่า๔ล้าน๖แสนล้านล้านด่ง ตัวเลขปิดปัญชีงบประมาณอยู่ที่กว่า๕ล้าน๘แสน๘หมื่นล้านล้านด่ง ร่างรายจ่ายงบประมาณอยู่ที่กว่า๕ล้าน๘แสนล้านด่ง ปิดบัญชีที่เกือบ๖ล้าน๕แสนล้านด่ง รัฐสภาอนุญาติตัวเลขขาดดุลย์งบประมาณที่เกือบ๑ล้าน๒แสนล้านล้านด่ง คิดเป็นร้อยละ๖.๒ของจีดีพี  ส่วนตัวเลขขาดดุลย์ที่แท้จริงอยู่ที่๑ล้าน๙หมื่นล้านล้านด่ง คิดเป็นร้อยละ๕.๕ของจีดีพี ลดลดร้อยละ๐.๗ของจีดีพีซึ่งเป็นผลมาจากที่งบประมาณที่เพิ่มขึ้น ผู้แทนจำนวนหนึ่งเห็นว่า แม้ว่าเศรษฐกิจจะมีการขยายตัวแต่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงมากเมื่อเทียบกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ สำหรับการจัดสรรงบประมาณก็มีมากเช่นกันแต่ยังขาดประสิทธิภาพในการเบิดจ่าย  ส่วนหนี้ค้างชำระยังคงอยู่ในสูง นายBùi Đức Thuận ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดLai châu กล่าวว่า “ผมเห็นชอบกับรายงานของรัฐบาลและรายงานตรวจสอบของคณะกรรมาธิการการเงินและงบประมาณของรัฐสภาเกี่ยวกับการปิดบัญชีงบประมาณแผ่นดินปี๒๐๑๐ที่ได้รวบรวมงบประมาณของ๖๓จังหวัดและนครกระทรวง หน่วยงานส่วนกลางซึ่งได้รับการอนุมัติจากสภาประชาชนจังหวัด ได้รับการตรวจสอบจากกระทรวงการคลัง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และได้มีการเปรียบเทียบกับข้อมูลในกรมธนารักษ์ ดังนั้นรายงานดังกล่าวของรัฐบาลถือว่าผ่านข้อกำหนดเกี่ยวกับขั้นตอน ระเบียบการอนุมัติการปิดบัญชีงบประมาณตามประมวลกฏหมายงบประมาณแผ่นดิน”  เช้าวันเดียวกัน ที่ประชุมรัฐสภาได้อภิปรายเกี่ยวกับการเพิ่มโครงการใหม่ที่ใช้พันธบัตรรัฐบาลในช่วงปี๒๐๑๒ ถึงปี๒๐๑๕ เช่นโครงการก่อสร้างสะพานNăm CănในจังหวัดCà Mau โครงการก่อสร้างที่พักอาศัยสำหรับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยจังหวัดTrà Vinhและโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลโรคมะเร็งนครดานัง   
ส่วนในช่วงบ่าย  ที่ประชุมรัฐสภาได้อภิปรายเกี่ยวกับร่างกฏหมายสำรองแห่งชาติโดยเห็นพ้องกันว่า การประกาศใช้กฏหมายฉบับนี้ก็เพื่อสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขผลเสียหายอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ อัคคีภัยและโรคระบาด อัตราการสำรองแห่งชาติในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ๐.๓๘ของจีดีพีซึ่งยังต่ำเมื่อเทียบกับหลายประเทศในโลกดังนั้นเพื่อเพิ่มแหล่งสำรองแห่งชาติจำเป็นต้องเพิ่มรายการสินค้าสำรองแห่ชาติและส่งเสริมให้ทุกคนในสังคมเข้าร่วม  ไม่ควรกำหนดอัตราสำรองที่ตายตัวแต่ควรมอบหมายหน้าที่ให้รัฐบาลติดตามสถานการณ์ที่เป็นจริงเพื่อเสนอให้รัฐสภาพิจารณา อนุมัติอัตราการสำรองเป็นประจำทุกปีให้สอดคล้องกับกฏหมายงบประมาณและเสนอให้ยกเลิกการใช้สินค้าสำรองแห่งชาติเพื่อพยุงราคาสินค้า สร้างเสถียภาพให้แก่เศรษฐกิจและรักษาสวัสดิการสังคมเพราะว่า ปริมาณการสำรองในปัจจุบันยังไม่สามารถตอบสนองด้านดังกล่าวได้ นายLe Van Hoang ผู้แทนรัฐสภานครดานังกล่าวว่า “ควรไตร่ตรองและศึกษาวิจัยการใช้กฏหมายสำรองแห่งชาติเพื่อพยุงราคาสินค้าและสร้างเสถียรภาพให้แก่เศรษฐกิจเพราะนี่เป็นเป้าหมายที่ยากจะปฏิบัติได้และมีแนวโน้มเดินทวนกับเป้าหมายพัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาด ส่วนการรักษาสวัสดิการสังคมเป็นหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานและด้านต่างๆดังนั้นคณะกรรมการร่างกฏหมายควรลดเป้าหมายการใช้การสำรองแห่งชาติบนพื้นฐานของการสร้างความสมดุลย์ของแหล่งพลังต่างๆให้สอดคล้องกับคุณลักษณะของการสำรองแห่งชาติ และใช้แหล่งพลังแห่งชาติในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น”./.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด