ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงนายกรัฐมนตรีเวียดนามพบปะทวิภาคีนอกรอบการประชุมสุดยอดอาเซม๑๐

(VOVworld) –  ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงนายกรัฐมนตรีเวียดนามพบปะทวิภาคีนอกรอบการประชุมสุดยอดอาเซม๑๐
ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงนายกรัฐมนตรีเวียดนามพบปะทวิภาคีนอกรอบการประชุมสุดยอดอาเซม๑๐ - ảnh 1
ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงนายกรัฐมนตรีเวียดนามกับท่านมัตเตโอ เรนซีนายกรัฐมนตรีอิตาลี(Photo: TTX)

(VOVworld) –  ในกรอบการประชุมสุดยอดอาเซม๑๐ ที่นครมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อค่ำวันที่๑๖และเช้าวันที่๑๗เดือนนี้ ตามเวลาเวียดนาม ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้มีการพบปะทวิภาคีกับผู้นำประเทศต่างๆซึ่งในการพบปะกับท่านฟร็องซัวส์ ออลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ทั้งสองฝ่ายได้ชื่นชมผลความร่วมมือทวิภาคีในเวลาที่ผ่านมาเพื่อปฏิบัติความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม– ฝรั่งเศส ผู้นำทั้งสองท่านได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาระหว่างประเทศและภูมิภาคที่ให้ความสนใจร่วมกันและให้คำมั่นว่าจะประสานงานในการจัดการประชุมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศครั้งที่๒๑ของสหประชาชาติหรือซีโอพี๒๑ ที่กรุงปารีสในปี๒๐๑๕ ส่วนประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เห็นด้วยกับความสำคัญของการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาในเอเชีย แปซิฟิก รวมทั้งการรักษาสันติภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยในการเดินเรืออย่างเสรี แก้ไขการพิพาทผ่านการสนทนาและมาตรการสันติภาพบนพื้นฐานของการปฏิบัติตามกฎหมายสากลและอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี๑๙๘๒

            ในการพบปะกับท่านมัตเตโอ เรนซีนายกรัฐมนตรีอิตาลีและประธานหมุนเวียนสหภาพยุโรปหรืออียูและประธานอาเซม๑๐ นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เห็นพ้องกันว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศควรร่วมกันพยายามนำความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้กลายเป็นเสาหลักสำคัญในความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ แลกเปลี่ยน เห็นพ้องมาตรการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกเพื่อให้ชมรมนักธุรกิจทั้งสองประเทศขยายการพบปะ เชื่อมโยงหุ้นส่วนเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้คือ มูลค่าการค้าต่างตอบแทนอยู่ที่๕พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี๒๐๑๕และเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายควรธำรงและพัฒนากลไกทาบทามและความร่วมมือระหว่างกระทรวง และหน่วยงานต่างๆของทั้งสองประเทศโดยเฉพาะ ต้องมีความร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้นในฟอรั่มภูมิภาคและโลก เกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออก นายกรัฐมนตรีอิตาลียืนยันว่า จะสนับสนุนการรักษาความมั่นคง ความปลอดภัย ในการเดินเรืออย่างเสรี แก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายสากล โดยเฉพาะ อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเล อิตาลียืนยันว่า จะสนับสนุนการขยายความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอียูต่อไป รวมทั้ง การผลักดันให้อียูอนุมัติข้อตกลงหุ้นส่วนความร่วมมือหรือพีซีเอ สนับสนุนให้อียูรับรองเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนามประจวบเหมาะกับโอกาสเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอ เวียดนาม– อียู

            ในการพบปะระหว่างนายกรัฐมนตรีเหงวียนเติ๊นหยุงกับท่าน เสตฟาน ลอฟ นายกรัฐมนตรีเสวีเดน นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เห็นพ้องกันว่า ทั้งสองฝ่ายควรขยายการพบปะแลกเปลี่ยนในทุกระดับ โดยเฉพาะ ผลักดันการเยือนระดับสูง ประสาน และอำนวยความสะดวกเพื่อให้นักลงทุนของทั้งสองประเทศพบปะ เชื่อมโยงความร่วมมือ โดยเฉพาะ ในด้านเทคโนโลยีสีเขียว เทคโนโลยีสะอาด ความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนา การคมนาคมและสาธารณสุข

            ในการพบปะกับท่านเอนตา เคนนีนายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะผลักดันความร่วมมือด้านการศึกษา ฝึกอบรม การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการเกษตรและแสดงความประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือด้านการศึกษา แลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และการพบปะระดับประชาชน

            ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงยังได้มีการพบปะกับท่านอาเล็กซานเดอร์ สรูบบ์นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะประสานกันอย่างแน่นแฟ้นเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีให้พัฒนาอย่างเข้มแข็งในเวลาข้างหน้าและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกันและเห็นพ้องกันว่า จะธำรงความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นและสนับสนุนกันในฟอรั่มพหุภาคีและโลก

            ที่ศูนย์การประชุมมิลาน ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงได้มีการพบปะกับผู้นำคาซักสถาน เนเธอแลนด์ สโลวีเนียและออสเตรเลียโดยท่านเหงวียนเติ๊นหยุงได้แสดงความยินดีต่อการที่คาซักสถานเข้าเป็นสมาชิกอาเซมอย่างเป็นทางการ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง ขยายความร่วมมือในด้านต่างๆที่ทั้งสองฝ่ายมีจุดแข็งและมีความต้องการ เช่น พลังงาน ปิโตรเลี่ยมและการแลกเปลี่ยนทางการค้า

            นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงและนายกรัฐมนตรีเนเธอแลนด์ มัก รุดแตได้เห็นพ้องกันว่า จะอำนวยความสะดวกให้นักธุรกิจทั้งสองประเทศขยายความร่วมมือ ลงทุนและประกอบธุรกิจในตลาดของแต่ละฝ่าย โดยเฉพาะ ในด้านที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ

            สำหรับสโลวีเนีย ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะผลักดันการเยือนระดับสูง การพบปะแลกเปลี่ยนระหว่างกระทรวงและหน่วยงานต่างๆของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

            ในการพบกับนายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุง รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย จูเลีย บีชอฟได้ยืนยันว่า รัฐบาลชุดใหม่ของออสเตรเลียถือเวียดนามเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนสำคัญของออสตรเลียในเอเชีย แปซิฟิก ทั้งสองฝ่ายยืนยันว่า จะประสานและสนับสนุนกันในฟอรั่มภูมิภาคและโลก เช่น สหประชาชาติ อาเซม เอเปก การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกหรืออีเอเอสและฟอรั่มภูมิภาคอาเซียน./.


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด