การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่๒๕

(VOVworld) –  วันที่๑๒เดือนนี้ ที่กรุงเนปิดอว์ได้มีการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่๒๕ ในพิธีเปิด พลเอกเต็งเส่งประธานาธิบดีพม่าได้ยืนยันอีกครั้งว่า ความสามัคคีและเอกภาพเป็นเงื่อนไขล่วงหน้าและพื้นฐานเพื่อสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนให้เป็นผลสำเร็จและพัฒนาอย่างเข้มแข็งมั่นคง ยกระดับสถานะและบทบาทในภูมิภาคและโลก

          หลังพิธีเปิด บรรดาผู้นำอาเซียนได้เข้าร่วมการประชุมครบองค์โดยเน้นอภิปรายความคืบหน้าของการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนและวางแนวทางของอาเซียนหลังปี๒๐๑๕ ผลักดันความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนต่างๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน ต่อสถานการณ์ทะเลตะวันออกที่ยังคงมีความผันผวนอย่างซับซ้อน บรรดาผู้นำอาเซียนได้แสดงความกังวลและย้ำถึงความสำคัญของการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยในการเดินเรือและการเดินอากาศอย่างเสรีในทะเลตะวันออก ย้ำถึงการปฏิบัติตามกฎหมายสากล อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี๑๙๘๒ แก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธี ปฏิบัติข้อกำหนดในแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการปฏิบัติของฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีโดยเฉพาะ ๕ข้อของแถลงการณ์อย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ ใช้ความอดกลั้น ไม่ทำให้สถานการณ์มีความซับซ้อนและตึงเครียดมากขึ้น  ผลักดันการเจรจาระหว่างอาเซียนกับจีนอย่างจริงจังเพื่อบรรลุร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซี  

ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงกล่าวว่า อาเซียนควรเป็นฝ่ายรุกและมีความรับผิดชอบยิ่งขึ้นในการผดุงรักษาสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค เรียกร้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเคารพและปฏิบัติตามทุกข้อกำหนด โดยเฉพาะข้อ๕ของแถลงการณ์นี้ที่ระบุว่าใช้ความอดกลั้น ไม่ทำให้สถานการณ์มีความซับซ้อและตึงเครียดยิ่งขึ้น ไม่ใช้หรือขู่ใช้กำลัง แก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธี เคารพกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี๑๙๘๒ อาเซียนควรปฏิบัติเนื้อหาที่ได้เห็นพ้องกันอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะ การที่อาเซียนและจีนแปรมาตรการให้เป็นรูปธรรมและวางระเบียบการต่างๆเพื่อค้ำประกันการปฏิบัติดีโอซี โดยเฉพาะ ๕ข้อของแถลงการณ์ ทำการเจรจาอย่างจริงจังเพื่อบรรลุซีโอซีเชิงบังคับโดยเร็ว

          เกี่ยวกับปัญหาภูมิภาคและโลก ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงกล่าวว่า สันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาเป็นแนวโน้มทั่วไปในเอเชียตะวันออก เกี่ยวกับปัญหาการก่อการร้ายและการใช้ความรุนแรงที่เพิ่มทวีคูณในอิรักและซีเรีย ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงย้ำว่า เวียดนามได้ร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศ ประณามการก่อการร้ายในทุกรูปแบบ เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคอีโบลา  ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงกล่าวว่า อาเซียนควรดำเนินมาตรการต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อยับยั้บการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา ขยายการประสานงานกัน แสวงหาการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลกและบรรดาประเทศที่พัฒนา  เกี่ยวกับการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนและแนวทางของอาเซียนหลังปี๒๐๑๕ ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงกล่าวว่า เวียดนามให้คำมั่นจะมีความพยายามมากขึ้นในปี๒๐๑๕โดยร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆเสร็จสิ้นขั้นตอนมุ่งสู่ประชาคมอาเซียนตามเป้าหมายที่วางไว้

          เมื่อการประชุมเสร็จสิ้นลง ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงและบรรดาผู้นำอาเซียนคนอื่นๆได้อนุมัติแถลงการณ์เนปิดอว์เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนภายหลังปี๒๐๑๕ ซึ่งเป็นพื้นฐานเพื่อวางแนวทางพัฒนาประชาคมอาเซียนช่วงปี๒๐๑๖ถึงปี๒๐๒๕ แถลงการณ์อาเซียนเกี่ยวกับการเพิ่มทักษะในคณะเลขาธิการอาเซียน ยกระดับประสิทธิภาพการประสานงานกับสำนักงานอาเซียนต่างๆและแถลงการณ์อาเซียนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ./.