ประธานเจืองเติ้นซางกับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ( VOV )

(VOVWorld) – คืนวันที่๒๘เดือนนี้ ท่านเจืองเติ๊นซาง ประธานประเทศและคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามได้เดินทางกลับถึงกรุงฮานอย เสร็จสิ้นการเยือนอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของท่านซูซีโล บัมบัง ยูโดโยโน ประธานาธิบดีอินโดนีเซียซึ่งเป็นนิมิตรหมายทางประวัติศาสตร์ใหม่โดยได้ยกความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์พร้อมผลักดันความร่วมมือภายในกลุ่มอาเซียนเพื่อสันติภาพ และการพัฒนาของภูมิภาค เกี่ยวกับผลการเยือน ท่านฝ่ามบิ่งมินห์ รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามได้กล่าวว่า“จากการพบปะเจรจากับบรรดาผู้นำอินโดนีเซียในการเยือนอินโดนีเซียของประธานประเทศแสดงให้เห็นว่า ทั้งสองฝ่ายได้มีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในปัญหาทวิภาคีเช่นเดียวกับความร่วมมือ และประสานกันในฟอรั่มพหุภาคี ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า จะส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอินโดนีเซียให้พัฒนาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เป็นโอกาส และพัฒนาการใหม่เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้มีความใกล้ชิดและความไว้วางใจยิ่งขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ เพื่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค”             ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องกันว่า จะเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนให้ถึงกว่า๕พันล้านเหรียญสหรัฐในปี๒๐๑๕และ๑หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี๒๐๑๘ ในการเสวนาระหว่างนักธุรกิจทั้งสองประเทศภายใต้อำนวยการของประธานเจืองเติ๊นซาง ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันว่า จะกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างชมรมนักธุรกิจทั้งสองประเทศในด้านธัญญาหาร สัตว์น้ำ ถ่านหิน แร่ธาตุและปิโตรเลี่ยม            ในการเจรจาระหว่างกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะผลักดันการปฏิบัติบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือทางด้านทะเลและการประมงและจะเสนอมาตรการชั่วคราวต่อการปักปันเขตแดนในเขตเศรษฐกิจจำเพาะเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การประมงในขณะที่ยังคงเจรจาต่อไปเพื่อมุ่งสู่มาตรการสุดท้าย นายหวูวันต๊ามรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรงเกษตรและพัฒนาชนบทได้เผยว่า  “ เวียดนามกับอินโดนีเซียได้ตกลงกันในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการทำประมง ในกรณีที่เรือประมงของเวียดนามรุกล้ำเขตน่านน้ำทะเลของอินโดนีเซียจะถูกจัดการบนเจตนารมย์แห่งมนุษยธรรมและมิตรภาพ จากเนื้อหาการเจรจาต่างๆระหว่างประธานประเทศกับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เราหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อป้องกันการทำประมงอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งเปิดโอกาสให้นักธุรกิจเวียดนามร่วมทุนกับนักธุรกิจอินโดนีเซียในการให้ชาวประมงของเราไปทำการประมงในเขตน่านน้ำทะเลของอินโดนีเซียอย่างถูกกฎหมายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ”

ท่านเจืองเติ้นซางประธานประเทศเขียนในสมุดเยื่่ยม ณ สำนักงาน เลขาธิการอาเซียน  ( VOV )

การเยือนอินโดนีเซียของประธานประเทศเจืองเติ้นซางได้ประสบความสำเร็จในด้านเศรษฐกิจและการค้า อีกทั้งเป็นการเปิดหน้าใหม่ในความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคงระหว่างสองประเทศ   ผู้นำทั้งสองประเทศได้ยืนยันถึงความสำคัญในการขยายความร่วมมือในด้านอุตสาหกรรมกลาโหม การต่อต้านการก่อการร้ายและรับมือกับความท้าทายของความมั่นคงนอกระบบ  ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันอีกครั้งถึงความสำคัญของสันติภาพ ความปลอดภัย ความมั่นคงและการเดินเรือในทะเลตะวันออกอย่างเสรี การแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธี มีความอดกลั้น ไม่ใช้อาวุธหรือขู่ใช้อาวุธ ให้ความเคารพกฎหมายสากลรวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลปี ๑๙๘๒ การปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีและร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีให้เสร็จโดยเร็ว  ทั้งสองฝ่ายแสดงความสนับสนุนต่อแถลงการณ์ ๖ ข้อของอาเซียนเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออกและแสดงความยินดีต่อแถลงการณ์ร่วมของการประชุมผู้นำอาเซียนและจีนครั้งที่ ๑๕ ในโอกาสรำลึกครบรอบ ๑๐ ปีการลงนามดีโอซี  สิ่งที่โดดเด่นในการเยือนอินโดนีเซียครั้งนี้ของท่านเจืองเติ้นซางคือ คำปราศรัยของท่าน ณ สำนักงานคณะเลขาธิการอาเซียนโดยยืนยันว่า นโยบายต่างประเทศของเวียดนามเน้นอาเซียนเป็นอันดับแรก  ./.