ภาพของฟอรั่ม (Photo: TTXVN)

ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้แจ้งสถานการณ์เวียดนามภายหลังเกือบ 40 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ ซึ่งเวียดนามได้กลายเป็นเศรษฐกิจรายใหญ่อันดับที่ 4 ในอาเซียน เป็นหนึ่งใน 20 เศรษฐกิจที่มีขอบเขตการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นประเทศส่งออกข้าวและสินค้าการเกษตรชั้นนำของโลก เข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรี 16 ฉบับ นับตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน จากสถานการณ์ภาวะเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ เวียดนามพยายามรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ผลักดันการขยายตัว ค้ำประกันความสมดุลของเศรษฐกิจ ประชาคมโลกและบรรดานักลงทุนประเมินในเชิงบวกเกี่ยวกับศักยภาพการขยายตัวและบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจของเวียดนาม พร้อมทั้งย้ำว่า ซาอุดิอาระเบียเป็นหุ้นส่วนชั้นนำของเวียดนามในภูมิภาคตะวันออกกลาง ส่วนเวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญ เป็นสะพานเชื่อมอาเซียนของซาอุดิอาระเบีย อีกทั้ง ย้ำว่า เวียดนามให้คำมั่นที่จะค้ำประกันสิทธิผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของบรรดาสถานประกอบการต่างชาติ  รวมทั้งสถานประกอบการซาอุดิอาระเบียที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม "เรามุ่งมั่นที่จะค้ำประกันสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของนักลงทุนชาวซาอุดีอาระเบีย พร้อมอยู่เคียงข้างนักลงทุนเพื่อพัฒนาและขยายผลประโยชน์ของคุณในตลาดเวียดนาม พร้อมร่วมมือแบ่งปันความยากลำบากและความเสี่ยงเพื่อสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน เวียดนามหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต้อนรับนักลงทุนต่างชาติมาเวียดนาม ผมยังเชื่อมั่นว่าหลังการประชุมครั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอาเซียนรวมทั้งเวียดนามและกลุ่มประเทศเขตอ่าวเปอร์เซียรวมถึงซาอุดิอาระเบียจะเป็นประตูสู่อาเซียนและกลุ่มประเทศอ่าวเปอร์เซีย"

โอกาสนี้ ได้มีการจัดพิธีลงนามบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการค้า อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวระหว่างกระทรวงและหน่วยงานต่างๆของทั้งสองประเทศ.