ภาพการประชุม

ในรายงานที่นำเสนอต่อที่ประชุมระบุว่า สถานการณ์เศรษฐกิจสังคมของเวียดนามในเดือนตุลาคมและใน 10 ที่ผ่านมาได้บรรลุผลงานที่น่ายินดี เศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ ภาวะเงินเฟ้อได้รับการควบคุม ความสมดุลใหญ่ๆ ได้รับการค้ำประกัน ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือซีพีไอในเดือนตุลาคมได้เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 3.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วและเฉลี่ยใน 10 เดือนที่ผ่านมาได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 ตลาดการเงินมีเสถียรภาพ ระบบธนาคารมีความปลอดภัย ยอดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอใน 10 เดือนที่ผ่านมาได้บรรลุกว่า 2 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ในการกล่าวปราศรัยสรุปการประชุม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้กำชับให้หน่วยงานทุกระดับยืนหยัดปฏิบัติเป้าหมายที่ได้วางใว้ พยายามบรรลุเป้าหมายประจำปีเพื่อสร้างพื้นฐานให้แก่ปีต่อๆ ไป พร้อมทั้งเผยว่า "ต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อการขยายตัว การปฏิบัตินโยบายการเงินอย่างคล่องตัว เป็นฝ่ายรุก ทันการณ์และมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการผลักดันพลังขับเคลื่อนต่างๆ ของการขยายตัว โดยในด้านการลงทุน ต้องเน้นดึงดูดและเบิกจ่ายเงินลงทุนของสังคม เช่น การลงทุนภาคเอกชน การลงทุนต่างชาติและความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน แก้ไขอุปสรรคต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้แก่การปฏิบัติโครงการลงทุน รวมทั้งปัญหาภาษีขั้นพื้นฐานทั่วโลก สำหรับการส่งออก จำเป็นต้องธำรงและปรับปรุงตลาดที่มีอยู่แล้วและผลักดันการขยายตลาดใหม่ๆ การเจรจาและการลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และข้อตกลงการค้าเสรีกับบราซิล เป็นต้น"

นายกรัฐมนตรี ยังกำชับให้ปฏิบัติมาตรการต่างๆ เพื่อพยายามยกเลิกใบเหลือ IUU ของอียู พัฒนาอุตสาหกรรมการให้บริการที่มีศักยภาพและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การขนส่ง โลจิสติกส์ การศึกษา สาธารณสุขและธนาคาร ผลักดันการท่องเที่ยว โดยเฉพาะส่งเสริมการท่องเที่ยวในตลาดหลัก เป็นต้น.