ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งได้เผยว่า เวียดนามยังไม่มีแนวทางพัฒนาไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อีกครั้งแต่จะวิจัยและพิจารณาการถือพลังงานนิวเคลียร์เป็นมาตรการที่สำคัญในการปฏิบัติคำมั่นเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ค้ำประกันความมั่นคงด้านพลังงานเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศ พร้อมทั้งเสนอให้ทั้งสองฝ่ายผลักดันความร่วมมือในด้านการวิจัยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีนิวเคลียร์ให้นับวันเข้าสู่ส่วนลึก จริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพี่อเป้าหมายสันติภาพ โดยเฉพาะในการค้ำประกันพลังงานสำหรับการดำรงชีวิตของประชาชนด้วยแผนการร่วมมือในระยะยาวและโครงการที่เป็นรูปธรรม ขยายไปยังด้านอุตสาหกรรม การเกษตร สาธารณสุขและการขนส่ง อีกทั้งเสนอให้รัสเซียและบริษัท Rosatom ให้ความช่วยเหลือเวียดนามในการฝึกอบรมแหล่งบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ การเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ดาลัดเพื่อทำการวิจัย ประสานงานอย่างใกล้ชิด แลกเปลี่ยนข้อมูลและแก้ไขอุปสรรคเพื่อค้ำประกันการปฏิบัติโครงการก่อสร้างศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีนิวเคลียร์ในจังหวัดด่งนายตรงตามกำหนด แสดงความยินดีต่อข้อเสนอของทางบริษัทฯในการก่อสร้างศูนย์เวชศาสตร์นิวเคลียร์และวิจัยความร่วมมือในการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลม

ส่วนนาย A.E.Likhachev ยืนยันว่า รัสเซียและบริษัท  Rosatom มีความประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือกับเวียดนามในด้านวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์  การพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลม  พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และช่วยเหลือเวียดนามในการเพิ่มทักษะความสามารถ และการฝึกอบรมแหล่งบุคลากรในด้านนี้.