นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโทนี อัลบานิซี

หลังพิธีต้อนรับ นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เข้าร่วมการเจรจา ณ สำนักรัฐบาล โดยชื่นชมผลความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศ เห็นพ้องเพิ่มการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับในเวลาที่จะถึง ผลักดันความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน โดยปฏิบัติยุทธศาสตร์การขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศในระยะปี 2021-2025 ความร่วมมือในด้านกลาโหม ความมั่นคง ตุลาการ เป็นต้น และเห็นพ้องยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านในเวลาที่เหมาะสม

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยืนยันว่า จะอำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการออสเตรเลียเข้ามาลงทุนในเวียดนามมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านโครงสร้างพื้นฐาน โทรคมนาคม การเงิน ธนาคาร การศึกษา การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้น สูง การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล การปรับเปลี่ยนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการจัดทำฐานข้อมูลของประชาชน พร้อมทั้งเสนอให้ออสเตรเลียอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการเวียดนามเข้ามาลงทุนในออสเตรเลียมากขึ้น ตลอดจนชื่นชมการที่ออสเตรเลียเพิ่มเงินโอดีเออีกร้อยละ 2.5 ให้แก่เวียดนามในปีงบประมาณ 2023-2024 และเสนอว่า ถือความร่วมมือโอดีเอเป็นปัจจัยสำคัญในความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านที่จะยกระดับในอนาคต

ภาพการเจรจา

ส่วนนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโทนี อัลบานิซี ได้ยืนยันว่า ออสเตรเลียมีความประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือในด้านความมั่นคง กลาโหม โอดีเอกับเวียดนามและเห็นพ้องขยายความร่วมมือลงทุนต่างตอบแทน เพิ่มทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาเวียดนามและพิจารณาการปรับปรุงข้อตกลงการบินในปี 1995 เพื่อเพิ่มเที่ยวบินระหว่างสองประเทศ  ขยายความร่วมมือในด้านใหม่ๆ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัลและการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล พร้อมทั้งประกาศวงเงินช่วยเหลือมูลค่า 105 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียให้เวียดนามพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและปรับเปลี่ยนพลังงาน ตลอดจนยืนยันว่า จะถือเวียดนามเป็นประเทศสำคัญในยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึงปี 2040 ที่ออสเตรเลียกำลังจัดทำ

สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้ย้ำถึงบทบาทสำคัญของการธำรงและผลักดันสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง การเดินเรือและการบินอย่างเสรีและปลอดภัยในทะเลตะวันออก ผลักดันการสนทนา เพิ่มความไว้วางใจและแก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธีตามกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้เชิญนายกรัฐมนตรีเวียดนามเดินทางไปเยือนออสเตรเลียในเวลาที่เหมาะสมในปี 2023 และนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ตอบรับคำเชิญ

การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

หลังการเจรจา นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารความร่วมมือฉบับต่างๆ เช่น บันทึกช่วยจำเกี่ยวกับความร่วมมือในการจัดทำการสนทนาระดับรัฐมนตรีว่าด้วยการค้าเวียดนาม - ออสเตรเลียและบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองด้านการเงินที่เกี่ยวข้องถึงการฟอกเงินและการสนับสนุนก่อการร้าย เป็นต้น ต่อจากนั้น ก็ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เผยว่า ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องแนวทางขยายความร่วมมือในเวลาที่จะถึงเพื่อเพิ่มความไว้วางใจทางการเมือง มีส่วนร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม พยายามนำมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐโดยเร็ว ขยายการเชื่อมโยงระหว่างสองเศรษฐกิจ รวมทั้งการเชื่อมโยงในด้านคมนาคม การเงิน ธนาคารและการค้าอิเล็กทรอนิกส์ ออสเตรเลียจะอำนวยความสะดวกให้สินค้าการเกษตรของเวียดนามเจาะตลาดออสเตรเลียต่อไป

โอกาสนี้ ภายใต้การเป็นสักขีพยานของนายกรัฐมนตรีทั้งสองท่าน สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ได้รับใบรับรองและเปิดสายการบินฮานอย - เมลเบิร์น และเที่ยวับที่ 4 มิถุนายน นายกบัฒนตรีทั้งสองท่านได้ไปเยี่ยมเยือนทีมฟุตบอลหญิงออสเตรเลียและทีมฟุตบอลหญิงเวียดนาม ซึ่งเป็นสองทีมที่จะเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกปี 2023 ที่จะมีขึ้น ณ ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในเร็วๆนี้.