ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำถึงความสำคัญของการธำรงความสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวและบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาระดับภูมิภาค รวมทั้ง ปัญหาทะเลตะวันออกและเมียนมาร์ สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า อาเซียนมีวิธีการเข้าถึงที่ถูกต้อง ธำรงบทบาทส่งเสริมการสนทนา การแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธี สอดคล้องกับกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982  หลีกเลี่ยงปฏิบัติการที่ทำให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียดมากขึ้น ค้ำประกันสันติภาพ ความมั่นคง เสรีภาพในการเดินเรือและการบินในภูมิภาค สำหรับสถานการณ์เมียนมาร์ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า เวียดนามและบรรดาประเทศอาเซียนสนับสนุนความพยายามช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของอาเซียนและหุ้นส่วนต่างๆในเมียนมาร์ และมีความประสงค์ว่า อาเซียนจะยืนหยัดปฏิบัติตามฉันทามติ  5 ข้อและช่วยเหลือเมียนมาร์ อาเซียนควรส่งเสริมความสามัคคี ส่งเสริมวิธีการเข้าถึงอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ มีก้าวกระโดดมากขึ้น ช่วยเหลือเมียนมาร์ในการแสวงหามาตรการแก้ไขอย่างยั่งยืน

ส่วนเลขาธิการอาเซียนได้เผยว่า ประเทศหุ้นส่วนต่างๆให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์และบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน พร้อมช่วยเหลืออาเซียนในการปฏิบัติประเด็นที่ได้รับความสนใจในเสาหลักของประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุน การฝึกอบรมแหล่งบุคลากรและการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก เลขาธิการอาเซียนได้ชื่นชมแนวคิดเชิงยุทธศาสตร์และวิธีการเข้าถึงอย่างถูกต้องของเวียดนาม และมีความประสงค์ว่า ฝ่ายต่างๆจะส่งเสริมการเจรจา มุ่งสู่การจัดทำหลักปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีอย่างจริงจัง มีประสิทธิภาพบนพื้นฐานของกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982และเพื่อผลประโยชน์ของอาเซียน.