นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตอังกฤษ สิงคโปร์และผู้อำนวยการฝ่ายบริหารมูลนิธิเทมาเส็ก
(VOVWORLD) -บ่ายวันที่ 2 สิงหาคม ณ กรุงฮานอย นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตอังกฤษ เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำเวียดนามและผู้อำนวยการฝ่ายบริหารมูลนิธิเทมาเส็ก Ng Boon Heong ที่กำลังอยู่ระหว่างการเยือนเวียดนาม
นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำเวียดนาม (Photo: TTXVN) |
ในการให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้ยืนยันว่า เวียดนามมีความประสงค์ที่จะผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับสิงคโปร์และมีความประสงค์ที่จะได้รับความช่วยเหลือสิงคโปร์นการสร้างสรรค์เศรษฐกิจที่อิสระ พึ่งตนเองผสานกับการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก จริงจังและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเสนอให้ทั้งสองประเทศปฏิบัติโครงการและกิจกรรมต่างๆในโอกาสรำลึกครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและ 10 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในปี 2023 ผลักดันการปฏิบัติโครงการร่วมมือในด้านที่เวียดนามให้ความสนใจและสิงคโปร์มีจุดแข็ง เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล รัฐบาลดิจิทัล สังคมดิจิทัล เศรษฐกิจแห่งสีเขียวและนวัตกรรม เป็นต้น
ส่วนในการพบปะกับผู้อำนวยการฝ่ายบริหารมูลนิธิเทมาเส็ก Ng Boon Heong นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้เสนอให้มูลนิธิเทมาเส็กผลักดันความร่วมมือ ให้คำปรึกษาด้านนโยบาย ช่วยเหลือเวียดนามในการปฏิบัติโครงการฝึกอบรมแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูง ขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ พร้อมทั้งยืนยันว่า รัฐบาลเวียดนามอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการสิงคโปร์ในการลงทุนและการประกอบธุรกิจในเวียดนามในด้านเทคโนโลยี การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์ โลจิสติกส์ เป็นต้น
นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งให้การต้อนรับนาย Gareth Ward เอกอัครราชทูตอังกฤษและไอร์แลนด์เหนือ (Photo: TTXVN) |
ส่วนในการให้การต้อนรับนาย Gareth Ward เอกอัครราชทูตอังกฤษและไอร์แลนด์เหนือที่เข้าอำลาในโอกาสเสร็จสิ้นการปฏิบัติหน้าที่ตามวาระในเวียดนาม ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์กับอังกฤษ พร้อมทั้งเสนอให้ทั้งสองประเทศผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ ประสานงานในการจัดกิจกรรมต่างๆในโอกาสรำลึกครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับอังกฤษเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน อังกฤษจะผลักดันการนำเข้าผลิตภัณฑ์การเกษตรและผลไม้ของเวียดนาม ส่งเสริมความร่วมมือด้านการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การศึกษาและฝึกอบรม การพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน วัฒนธรรม การท่องเที่ยว การวิจัยการผลิตและการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด -19 ส่วนเอกอัครราชทูต Gareth Ward ได้ยืนยันว่า อังกฤษพร้อมช่วยเหลือเวียดนามในการพัฒนา โดยเฉพาะในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน พร้อมทั้งสนับสนุนจุดยืนของอาเซียนและเวียดนามเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือ การบินและแก้ไขปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกผ่านมาตรการที่สันติบนพื้นฐานของกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 เพื่อสันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก.