ภาพการประชุม (VGP)

จังหวัดบั๊กยางและจังหวัดบั๊กนิงเป็น 2 จังหวัดที่เผชิญการแพร่ระบาดอย่างหนัก โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2 พันราย ในการนี้ นายกรัฐมนตรีฝ่ามมิงชิ้งได้ย้ำว่า เป้าหมายสูงสุดในปัจจุบันคือเน้นควบคุมการแพร่ระบาดในจังหวัดบั๊กยางและจังหวัดบั๊กนิง รัฐบาล กระทรวง หน่วยงานและจังหวัด 2 แห่งนี้ต้องปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างเคร่งครัดและเข้มแข็งมากขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด โดยถือการดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆควบคู่กับการค้ำประกันการผลิตและประกอบธุรกิจเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อระบบห่วงโซ่อุปทานในนิคมอุตสาหกรรม ปฏิบัติมาตรการล็อกดาวน์ที่สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาด เป็นฝ่ายรุกในการตรวจหาเชื้อ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการตามหาและคัดกรองผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ปฏิบัติมาตรการ 5Kและผลักดันการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนและเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลภาคสนามในท้องถิ่น

ในเช้าวันเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรีหวูดึ๊กดาม หัวหน้าคณะกรรมการชี้นำแห่งชาติงานด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการเตรียมพร้อมเขตแยกตัวที่สามารถรองรับพนักงาน 6 พันคนที่กลับมาทำงานที่นิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดบั๊กยาง โดยได้กำชับให้จังหวัดบั๊กยางถอดประสบการณ์ในการปฏิบัติมาตรการล็อกดาวน์และการเตรียมพร้อมเขตแยกตัวพนักงานในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งต้องมีความคล่องตัวและความคิดสร้างสรรค์ในการคัดกรองผู้ที่เคยสัมผัสกับผู้ติดเชื้อในท้องถิ่น

“ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ในการทำการแยกตัว โดยต้องปฏิบัติรูปแบบต่างๆเป็นการนำร่องเพื่อถอดประสบการณ์ในการรับมือการแพร่ระบาดในนิคมอุตสาหกรรมและควรส่งเสริมให้เขตชุมชนเข้าร่วมการตรวจสอบการกักตัวของผู้ที่เคยสัมผัสกับผู้ติดเชื้อในชุมชน”